ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ติงรัฐบาลเรื่องซื้อเรือดำน้ำ ควรพิจารณาความจำเป็น-เร่งด่วน-คุ้มค่า แนะควรเอางบประมาณมาแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชนก่อน
จากกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้จัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน มูลค่า 1.35 หมื่นล้านบาท ตามที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เสนอเข้าที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2560
ล่าสุด (26 เมษายน 2560) มีรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การจัดซื้อต้องคำนึงถึงเม็ดเงินที่มีจำกัด ฝ่ายบริหารต้องพิจารณาว่าจะใช้งบประมาณกับอะไรเป็นอย่างแรก ตนทราบมาว่ารัฐบาลมีความจำเป็นถึงขนาดจะยอมยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค แต่จะไปซื้อเรือดำน้ำ ตรงนี้ต้องพิจารณาว่าอะไรเร่งด่วนกว่ากัน และอะไรคือความคุ้มค่าในภาวะเช่นนี้
ส่วนตัวในฐานะอดีต รมว.กลาโหม ก็เข้าใจในความต้องการที่จะมีเรือดำน้ำไว้ป้องกันประเทศเพื่อความมั่นคง แต่เวลานี้บ้านเมืองยังอยู่ในสภาวะปกติ อาจมีบางส่วนที่ชะลอได้ และนำงบประมาณไปใช้ในเรื่องเร่งด่วนกว่า หากวันข้างหน้ามีงบ และความสามารถในการหารายได้มากขึ้น มีงบเหลือเพียงพอ ก็สามารถซื้อสิ่งที่ต้องการหรือต้องใช้ได้ในอนาคต
ทั้งนี้ การซื้อเรือดำน้ำเป็นการซื้อที่มีภาระผูกพันในอนาคต เป็นภาระด้านงบประมาณรายจ่ายต่อปี มีค่าบำรุงรักษา เป็นภาระระยะยาว ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายในการฝึกยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ และจำนวนเรือดำน้ำ เท่าที่ทราบคือต้องมีเป็นชุด ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถทำงานป้องกันได้ แต่ถ้าจะสั่งมาเพื่อทดสอบอย่างเดียว ก็สามารถซื้อในช่วงที่ไม่เกิดภาวะเร่งด่วน หรือรัฐมีงบเหลือพอจะใช้ในส่วนนั้นได้ ตนมองว่าการใช้งบประมาณ ต้องคำนึงว่าเงินอะไรที่ใช้เร่งด่วน ก็ต้องใช้ก่อน โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ ความจำเป็นในการบริหารบ้านเมือง และเรื่องปากท้องของประชาชน จากนั้นสิ่งที่อยากได้จะเป็นความสำคัญรองลงมา ซึ่งฝ่ายบริหารต้องใช้ดุลยพินิจตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว
ในแง่ความจำเป็นในอนาคต ตนเคารพความต้องการของกองทัพเรือ แต่ก็ต้องพิจารณาระหว่างความเร่งด่วนและความจำเป็นในการใช้เม็ดเงินเพื่อความมั่นคงในการฝึกซ้อมของกองทัพ หรือเทียบกับงบประมาณที่บ้านเมืองต้องการใช้เม็ดเงินจากรัฐออกไปให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อย่างไหนคุ้มค่า และจำเป็นเร่งด่วนกว่ากัน
นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังแนะว่า การนำเข้ามาพิจารณาใน ครม. ไม่ควรพิจารณาเป็นวาระลับ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนติดตามกันทั้งประเทศ อย่างน้อยควรให้มีโอกาสได้รับรู้ รับทราบ ช่วยกันติดตามเงินงบประมาณที่มาจากภาษีของประชาชน ซึ่งในสมัยของตนเมื่อพิจารณาแล้วก็ได้ขอให้ชะลอการจัดซื้อ และเอาเงินไปพัฒนาอย่างอื่นที่จำเป็นเร่งด่วนแทน
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra