วันที่ 4 เม.ย.67 นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อุตสาหกรรมจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำจืด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 5 และผู้เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่ ม. 2 ซ.กองพนันพล ถ.เอกชัย ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการโรงหล่อหลอมอลูมิเนียม
หลังพบมีการร้องเรียนไปถึงคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ว่า บริษัทแห่งนี้ ได้มีการขนย้ายกากอุตสาหกรรมที่ได้เหลือจากการถลุงแร่สังกระสีของบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดตาก ซึ่งเป็นกากแคดเมียมที่มีอันตรายต่อสุขภาพและเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งมาเก็บไว้ภายในบริษัท
เบื้องต้นจากการตรวจสอบของ นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร พบว่าได้มีการอายัดกากอุตสาหรรมทั้งหมดจำนวนประมาณ 15,000 ตัน เพื่อรอขนย้ายกลับไปยังต้นทางในจังหวัดตาก พร้อมสั่งปิดกั้นอาคารของบริษัทแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่เก็บกากอุตสาหกรรม อย่างเด็ดขาด โดยให้ขนย้ายถุงบิ๊กแบ๊คที่อยู่ภายนอกอาคารให้เข้ามาไว้ภายในอาคารทั้งหมด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้ดำเนินการขนย้ายออกจากพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ภายใน 7 วัน
ทั้งนี้อุตสาหกรรมจังหวัดได้แจ้งข้อกล่าวหากับบริษัทดังกล่าว คือ ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และเก็บกากอุตสาหกรรมไม่เป็นไปตามที่แจ้งไว้กับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากบริษัทแห่งนี้ไม่มีใบอนุญาตให้หล่อหลอมแคดเมียม มีเพียงแค่ใบอนุญาตให้หล่อหลอมอลูมิเนียมเท่านั้น และการเก็บกากแคดเมียมยังไม่ตรงกับสถานที่ซึ่งได้แจ้งไว้ในการขนย้าย โดยมีโทษทั้งปรับและจำคุก
ด้านการป้องกันสารแคดเมียมปนเปื้อนในชุมชน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค 5 จะได้ดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำในพื้นที่โรงงานและพื้นที่ใกล้เคียงไปตรวจสอบคุณภาพอีกครั้ง ว่ามีการปนเปื้อนสารหรือไม่อย่างไร ส่วนอาคารที่เป็นจุดเก็บกากแคดเมียม ได้มีการสั่งห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าใกล้โดยเด็ดขาด
พร้อมกันนี้จะได้เร่งทำความเข้าใจกับประชาชนให้รับทราบ เพื่อเตรียมพร้อมในการป้องกันตนเอง ส่วนกากแคมเมียมที่พบนั้นอยู่ในสภาพที่เป็นของแข็ง ทำให้ง่ายต่อการป้องกันไม่ให้มีการปนเปื้อนออกไป รวมทั้งพนักงานของบริษัทได้ยืนยันว่า ยังไม่มีการนำกากแคดเมียมทั้งหมดไปเข้ากระบวนการหล่อหลอมแต่อย่างใด ทำให้ยังไม่ก่อให้เกิดฝุ่นควันอันตรายจากการหล่อหลอม
พนักงานบริษัท ยังให้ข้อมูลอีกว่า กาดแคดเมียมทั้งหมดมีการนำเข้ามาเก็บไว้ภายในบริษัทตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม 2566 โดยใช้เวลาขนย้ายทั้งหมดประมาณ 3 เดือน ส่วนจะนำไปทำอะไรต่อนั้น ไม่สามารถตอบได้เนื่องจากต้องสอบถามกับผู้บริหารบริษัทโดยตรง
สำหรับรายละเอียดและวัตถุประสงค์ในการนำกากแคดเมียมเข้ามาเก็บไว้ในพื้นที่ของบริษัทแห่งนี้ ยังไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าจะนำไปหล่อหลอมหรือนำไปส่งต่อให้กับใคร เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ระบุไว้กับทางอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ซึ่งทางอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง
แต่ทั้งนี้มีข้อมูลจากฝ่ากฏหมาย กรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ระบุว่า กากแคดเมียมที่ถูกขนย้ายมาจากจังหวัดตาก เป็นกากอุตสาหกรรมที่เหลือจากกระบวนการถลุงแร่สังกะสี ของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดตาก โดยกระบวนการถลุงแร่สังกะสี ได้มีการทำ EIA ให้ดำเนินการฝังกลบกากแคดเมียมที่เหลือจากการถลุงแร่สังกะสี โดยเป็นการฝังกลบแบบถาวรภายในบ่อซีเมนต์ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบความชัดเจนอีกครั้ง ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในเงื่อนไขของ EIA หรือไม่ ถึงไดมีการนำกากแคดมเมียมจำนวนมากเข้ามาในจังหวัดสมุทรสาคร
หนังสือพิมพ์ห้าเหล่าทัพ/ประทินทิพย์ อภิโชติทานสิริ /สมุทรสาคร