นางสมคิด อ้วนสี อายุ 60 ปี อยู่บ้านที่43หมู่8 ต.วังศาล อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ว่า นายอิศรา บัณฑิตย์ หรือ ครูไอซ์ ครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ และ เป็นครูประจำชั้น ของหลานสาว ที่เรียนอยู่ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่ ตำบลดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ได้ก่อเหตุ อนาจาร หอมแก้ม และ จับหน้าอก เด็กหญิง กาญจน์ (นามสมมุติ ) อายุ 10 ขวบ โดยที่ น้องกาญจน์ ถูกครูไอซ์ กระทำอนาจาร มาแล้วถึง 2 ครั้ง ด้วยกัน ซึ่งครั้งแรก เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2567 และ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 เช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ห้องน้ำภายในบ้านของเด็กนักเรียน เอง โดยครั้งแรก ครูไอซ์ ทำทีมาขอเข้าห้องน้ำ โดยอ้างปวดท้องหนัก ไปไม่ถึงบ้านแน่ ซึ่งมาจากโรงเรียน บ้านของเด็กหญิงกาญจน์ เป็นทางผ่านจึงขอมาเข้าห้องน้ำเพื่อจะทำธุระส่วนตัว ซึ่งขณะนั้น ผู้เป็นยายกำลังทำงานอยู่ทางหน้าบ้าน และก็ไม่ได้สงสัยในพฤติกรรมของครู จึงไม่ได้เดินตามไปดูหลานสาว โดยเด็กหญิงกาญจน์ อ้างว่า ครูไอซ์ ได้เดินไปรอที่ห้องน้ำในบ้าน อาศัยจังหวะที่ เด็กหญิงกาญจน์ ออกมาจากการล้างหน้า ที่ห้องน้ำเสร็จ พอเด็กเดินออกมา ครูไอซ์ ก็ผลักเด็กหญิงกาญจน์ กลับเข้าไปในห้องน้ำอีก แล้วทำการก็ปิดล๊อกประตู และเอามือปิดปากเด็ก เพื่อไม่ให้เด็กร้อง แล้วก็ลงมือก่อเหตุอนาจาร ส่วนครั้งที่ 2 ครูไอซ์ อ้างกับเด็กว่า เอากางเกงมาให้ยายเย็บ แต่มาถึงบอกว่าลืมเอากางเกงมา จากนั้นก็ให้เด็กพาไปที่ห้องน้ำอ้างปวดท้อง แล้วก็ลงมือก่อเหตุอนาจารเด็ก ซึ่งทุกครั้งหลังก่อเหตุ ครูไอซ์ ได้ข่มขู่เด็ก ว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกกับใคร
ส่วนเรื่องดังกล่าวที่แดงขึ้นมา เพราะ ยายเอะใจ หลานสาวคนเล็กหายไปไหนจึงเดินไปดูที่หลังบ้าน พบครูเดินออกมาจากห้องน้ำ โดยมีหลานสาว ตามหลังออกมา พอคาดคั้นครู ก็สารภาพว่า ไม่ได้คิดอะไร แค่หยอกเด็กเล่น ๆ หลังจากนั้นครูที่ก่อเหตุ ก็ได้ลาออกจากโรงเรียนไปแล้ว ซึ่งตนเองก็ได้เดินทางไปแจ้งความเอาไว้แล้ว ที่ สภ.ดงขุย แต่กลับไม่มีความคืบหน้าทางคดี
จากการสอบถาม นางสมคิด อ้วนสี อายุ 60 ปี เล่าว่า ครั้งแรกเกิดเหตุเมื่อวันที่ 14 มีนาคม ครั้งที่ 2 วันที่ 22 มีนาคม ซึ่งตนได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้แล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า คาดว่าครูคนก่อเหตุน่าจะหลบหนีไปแล้ว หลังตนเองถามหลานสาวจนรู้เรื่องจึงได้เรียกครูเพื่อให้กลับมาคุยกันแต่ตอนแรกครูปฏิเสธ ซึ่งตอนที่ตนถามครูครูก็พยายามที่จะปฏิเสธ ตนก็จึงบอกว่าตนเองนั้นถามหลานสาวแล้ว ดูจนถึงกางเกงในของหลานจึงทำให้ครูรับสารภาพ โดยครูอ้างว่าไม่มีเจตนาจะกระทำแบบชู้สาว แค่หยอกเล่นกับหลาน พร้อมทั้งขอโทษและกราบมาที่ตนเอง ซึ่งตนเองก็บอกว่าให้อภัยไม่ได้เพราะนี่มันเป็นบ้านของเราครูทำแบบนี้มันหยามกันเกินไป เห็นเป็นครูถึงยอมให้เข้าบ้านแต่พอไว้เนื้อเชื่อใจกลับมาทำแบบนี้ ซึ่งครูบอกกับเด็กว่าห้ามบอกเรื่องนี้ให้กับยายรู้ ซึ่งถ้าบอกก็จะโดนกระทำแบบนี้อีก วันเกิดเหตุครูอ้างว่าจะเอากางเกงมาซ่อม ซึ่งวันนั้นครูได้ชวนเด็กๆ ว่ากินข้าวหรือยังจะพาไปเลี้ยงข้าว ซึ่งเด็กได้ปฏิเสธ วันนั้นหลานสาวคนโตโดนคนเอง ไล่ให้ไปล้างหน้าเพราะว่ามีสิวขึ้นหน้า พอหลานคนโตล้างหน้าเสร็จ คนเล็กก็เดินเข้าไปล้างหน้า ซึ่งตอนนั้นตนเองเอะใจว่า หลานคนเล็กหายไปไหนซึ่งตอนนั้นตนเองได้ เดินไปหาหลานสาว เห็นห้องน้ำปิดประตูอยู่ ตอนนั้นไม่เห็นทั้งหลานทั้งครู ตอนนี้เห็นประตูปิดจึงถามว่าใครอยู่ในห้องน้ำหลังจากนั้นตัวเองก็เดินออกมาทางน้าบ้าน ต่อมาทั้งครูและหลานก็ได้ออกมาจากห้องน้ำ โดยหลานมาเล่าให้ฟังว่า ครูได้ยินเสียงที่ยายพูดจึงปล่อยตนเองออกมา ซึ่งตอนนั้นครูได้ลงมือทำหลานไปหนึ่งครั้ง หลังจากนั้นครูก็เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วบอกว่าจะไปโรงเรียนก่อน ผอ. โทรมาตาม คือวันนั้นถ้าตนเองช้าอีกหน่อยน่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเพราะวันนั้นคนงานตัดเหล็กจนเกิดเสียงดังจึงไม่ได้ยินเสียงหลาน แต่วันนั้นตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซึ่งถ้าตนไม่ได้ห้ามพี่น้องเอาไว้คงจะมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ ซึ่งทางญาติก็บอกว่าให้ไปแจ้งความ ซึ่งตนได้พาหลานไปแจ้งความแล้วโดยหลาน ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้คือวันที่ 14 ครูก็ได้ก่อเหตุอนาจารหลานไปครั้งหนึ่งแล้ว
ด้าน เด็กหญิง กาญจน์ (นามสมมุติ ) อายุ 10 ขวบ เล่าว่า วันนั้นครู ยืนรอตนเองอยู่ที่หน้าประตูห้องน้ำ และ ทำการผลักตนเองเข้าไปในห้องน้ำ จากนั้นจึงทำการล็อกประตู และ จับหน้าอกหนู โดยครูบอกว่าถ้าตนไปพูดเรื่องนี้ให้คนฟังก็จะโดนอีก หลานสาวยอมรับว่าครูทำการจับหน้าอกของตน ขณะที่อีกครั้งหนึ่งที่ผู้ก่อเหตุได้ขับรถยนต์มาหาที่บ้าน ซึ่งทุกครั้งที่ครูก่อเหตุ ตนเองกลัวมาก
เดชา มลามาตย์ เพชรบูรณ์