นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) นำคณะผู้บริหารระดับสูง และระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าร่วมประชุม ในหัวข้อ “แนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs จังหวัดสุรินทร์” และเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของ ด่านศุลกากรช่องจอม อ.กาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ บริเวณพรมแดน ไทย – กัมพูชา ระหว่างวันที่ 17-18 เมษายน ที่ผ่านมา โดยมี นายพรชัย มุ่งเจริญพร กรรมการสมาคมมิตรภาพ ไทย-กัมพูชา และอดีต สปช. จังหวัดสุรินทร์, นายประสงค์ เพริศพริ้ง นายด่านศุลกากรช่องจอม และ พ.ต.ท.อนันต์ ทองสุข สารวัตรตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ ให้การต้อนรับ
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติงานต่อเนื่องของ นายมงคล และคณะ หลังเข้าร่วมประชุม หัวข้อ “แนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs จังหวัดสุรินทร์” ที่ห้องประชุมปทุมรัตน์ ร้านอาหารสวนป่ารีสอร์ต เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2560 ท่ามกลางนักธุรกิจและผู้ประกอบการ ทั้ง ไทย และ กัมพูชา กว่า 80 ราย เข้ารับฟัง และเสนอความคิดเห็นถึงแนวทางการพัฒนาธุรกิจจาก SME Development Bank ที่เน้นแนวทางปฎิบัติต่างๆ ในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยเฉพาะบริการของธนาคาร ที่สนองต่อนโยบายของรัฐบาล อาทิ โครงการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ “เติมเต็มเงินทุน ติดอาวุธความรู้ ติดปีก SMEs ไทย” ที่ ธพว. เป็นแกนหลักในการเติมเต็มเงินทุนและเสริมสร้างองค์ความรู้เพื่อความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ให้ดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องและประสบความสำเร็จ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1 เปอร์เซนต์ ตลอดสัญญา 7 ปี
นอกจากนี้ยังมี สินเชื่อ SMEs Transformation Loan ที่จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการ รวมถึงเส้นทางโอกาสเอสเอ็มอี 4.0 เปิดวิสัยทัศน์และมาตรการพลิกโฉม SME ตามแนวประชารัฐ สู่ Thailand 4.0 และสินเชื่อ SMEs บัญชีเดียว ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องชาวสุรินทร์และกัมพูชาอย่างมาก ในการพัฒนาธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงสู่การสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษตลาดชายแดนช่องจอม และเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ ของอีสานใต้ โดยผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ SME Development Bank ทุกสาขา
ขณะที่การเยี่ยมชม ด่านศุลกากรช่องจอม ช่วงเช้าวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา นายประสงค์ เพริศพริ้ง นายด่านศุลกากรช่องจอม ได้กล่าวถึงสถานการณ์การค้าขายกับ ราชอาณาจักรกัมพูชา ที่ประเทศไทยได้เปรียบดุลการค้ามาตลอด 5 ปีหลังสุด โดยเฉพาะปีงบประมาณ 2559 ที่มีการส่งออกสินค้า 2,469.26 ล้านบาท นำเข้าสินค้า 2,112.59 ล้านบาท ทำให้ไทยได้เปรียบดุลการค้าอยู่ 356.6 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกอันดับ 1 ยังคงเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง และมีเกลือป่นเป็นสินค้าน่าจับตามอง เพราะมีตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้น จาก 26.5 ล้านบาท ใน ปี 58 เป็น 49.90 ล้านบาท ในปี 59 ส่วนสินค้านำเข้ายอดนิยม ยังคงเป็นมันสำปะหลัง (มันเส้น) ที่สูงถึง 1,386.11 ล้านบาท ในปีล่าสุด แต่ นายด่านด่านศุลกากรช่องจอม ยืนยันว่าไม่ใช้เรื่องน่าห่วง เพราะไทยทำหน้าที่เป็นตัวกลางนำเข้าเพื่อแปรรูปและส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ต่อไป
ด้านการปฏิบัติหน้าที่ของ ด่านศุลกากรช่องจอม สำนักงานศุลกากรภาคที่ 2 กรมศุลกากร ที่มีอัตรากำลังพลเพียง 23 ตำแหน่ง และอาคารสำนักงานที่จำกัด แต่มีพื้นที่รับผิดชอบถึง 3 จังหวัด ทั้ง นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และ สุรินทร์ สามารถจัดเก็บอากร-ค่าธรรมเนียม ปีงบประมาณ 2560 ได้รวม 7,240 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.79 หรือ 186 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันในปีงบประมาณ 2559 ซึ่งเป็นผลมาจากการป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ ทั้ง ด่านศุลกากรช่องจอม, ตม.จังหวัดสุรินทร์ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้การปฏิบัติหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
จากนั้น คณะผู้บริหาร SME Development Bank ได้เข้าเยี่ยมชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ศุลกากรช่องจอม, ตม.จังหวัดสุรินทร์ และทหาร ณ บริเวณด่านชายแดนทั้งสองประเทศ ก่อนเดินสำรวจ ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม ทั้ง ร้านจำหน่ายรถจักรยานมือสอง, เสื้อผ้า และสินค้าทางการเกษตร ของพี่น้องชาวไทยและกัมพูชา ซึ่งผู้ประกอบการได้เตรียมพิธีต้อนรับอย่างอบอุ่น ตามประเพณีด้วยการผูกผ้าขาวม้าคาดเอว
ภายหลังเสร็จสิ้นภาระกิจ นายมงคล ลีลาธรรม ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ระบุว่า ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม เป็นพื้นที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ตนในฐานะ กรรมการผู้จัดการ ธพว. ที่อยู่ภายใต้ กระทรวงการคลัง และกระทรวงอุตสาหกรรม จะร่วมสนับสนุนและผลักดันให้ ตลาดการค้าชายแดนช่องจอม เกิดเป็นเขตเเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมากในอนาคต