เจ้าหน้าที่กรมตำรวจรัฐเพนซิลเวเนีย รายงานว่า สตีฟ สตีเฟ่นส์ วัย 37 ปี ที่ก่อเหตุยิงชายวัย 74 ปี เสียชีวิต ผ่านการถ่ายทอดสดบนเฟซบุ๊กไลฟ์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ล่าสุด เจ้าตัวได้เสียชีวิตลงเเล้ว หลังตัดสินใจฆ่าตัวตาย เนื่องจากถูกกดดันอย่างหนัก ทั้งจากสื่อ และเจ้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ชายรายดังกล่าวจะเสียชีวิต พนักงานร้านแมคโดนัลล์ ที่รัฐเพนซิเวเนีย เป็นผู้พบเห็น สตีเฟ่นส์ ที่ขับรถเข้ามาสั่งนักเก็ตไก่ และเฟรนช์ฟราย โดยพนักงานได้อ้างว่าให้รอเฟรนช์ฟราย เพื่อจะได้โทรแจ้งเจ้าที่ตำรวจ แต่ สตีเฟ่นส์ กล่าวว่า ไม่สามารถรอได้
ขณะที่ ตำรวจเจอรถของ สตีเฟ่นส์ จอดอยู่ที่ลานจอดรถในร้านดังกล่าว จึงได้มีการขับรถไล่ล่ากันราว 3 กิโลเมตร ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะตัดสินใจใช้รถพุ่งชนด้านหลังรถคนร้าย เพื่อให้เสียการควบคุม จากนั้นเจ้าตัดสินใจชักปืนขึ้นมายิงศรีษะของตัวเองจนสียชีวิต ระหว่างที่รถกำลังหมุนจากการเสียหลัก
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังต้องสืบสวนหาสาเหตุ แรงจูงใจการก่อเหตุสะเทือนขวัญนี้ต่อไป หลังเจ้าตัวเป็นถึงผู้จัดการสถานบริบาลเด็กที่มีปัญหาทางจิต ส่วนทางการของรัฐโอไฮโอ ได้ถอนคำสั่งเลิกตามล่าตัว สตีเฟ่นส์
ทั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟซบุ๊กไลฟ์ ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือมือถ่ายทอดความรุนแรง หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีเด็กสาววัย 15 ปี จากชิคาโก้ ถูกข่มขืน โดยการถ่ายทอดสดผ่านทางเฟสบุ๊กไลฟ์ รวมถึงเหตุการณ์ที่ สวีเดน โดยชาย 3 ราย ถูกจับข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา และถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์เช่นกัน แถมยังมีการใช้ความรุนแรงอีกมากมาย อย่างเช่นล่าสุดมีฆาตกรรมเกิดขึ้นที่เมือง คลีฟแลนด์