น้องเพลง สุชัญญา
เจ้าของบทเพลง เราลองดูไหม
“โชว์ลีลาเล่นโขน
ในงานโรงเรียน
สกลวิทยา
ครบรอบ 60 ปี สถาปนาโรงเรียน
มีนักเรียนร่วมแสดง 41 คน โขน
ศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ ได้รับการเปิดเผยว่า
น.ส.สุชัญญา เทียมทัด (น้องเพลง) ศิลปินนักร้องขวัญใจวัยรุ่นเจ้าของบทเพลงเราลองดูไหม
ได้ร่วมแสดงโขนกับเพื่อนๆ
ในงานโรงเรียน
สกลวิทยา
งานครบรอบ 60 ปี สถาปนาโรงเรียนฯ
ได้มีการแสดงมากมาย ยกตัวอย่าง ทางโรงเรียนเอาวัฒนธรรมไทยการแสดงโขนจัดการแสดงให้กับผู้ปกครองได้ดูและนักเรียน ด้วย
งานนี้
น.ส.สุชัญญา เทียมทัด (น้องเพลง) ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 6 ได้ร่วมแสดง
โขน60ปีสกลวิทยา ซึ่งน้องเพลง ได้รับบทเป็นพระราม
เล่นการแสดงโขนเหมือนมืออาชีพ ได้ฝึกฝนเป็นอย่างหนัก มาเล่นในครั้งนี้เหนื่อยก็ต้องสู้เพื่อโรงเรียนร่วมกิจกรรมของโรงเรียน
น้องเพลง เปิดเผยว่า เพื่อเผยแพร่นาฏศิลป์ชั้นสูงอันเก่าแก่ของไทย อีกทั้งเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้มีส่วนร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยให้อยู่สืบไป
ไม่ให้หายจากเมืองไทย
และสังคมไทย
ซึ่งน้องเพลงได้แต่งชุดพระราม แต่งจนจำไม่ได้เลยว่าเป็นเป็นน้องเพลง สง่างาม รับบทพระรามแสดงเหมือนเป็นธรรมชาติ
เหมือนมืออาชีพมาแสดงให้ดู
ทำให้เกิดการสร้างความรักสามัคคีด้วยมิติทางวัฒนธรรม และประชาสัมพันธ์ให้โรงเรียน
สกลวิทยา
เป็นที่รู้จักกว้างขวางขึ้น”
บุคลิกลักษณะและคุณธรรมของพระราม
ในฐานะศิษย์ ได้ให้ความเคารพต่อฤาษีวสิทธิ์และสรามิตร ปรนนิบัติผู้เป็นอาจารย์ อย่างดีมีความกตัญญูรู้คุณ ดังคำประพันธ์ที่ว่า
” กราบลงแล้วกล่าววาจา อันฤณพระมหาดาบส
ใหญ่ยิ่งพระเมรุบรรพต
จะกำหนดที่ประทันประมานใจ
ที่ไตรโลกาเอามาเพียบ จะเปรียบหนักเสมอก็ไม่ได้
จะขอสนองคุณพระองค์ไป กว่าชีวาลัยจะมรณา “
ในฐานะลูก การที่พระรามยอมถูกเณรเทศสิบสี่ปีเพราะมีความรักและกตัญญูต่อบิดา ไม่ต้องให้บิดาเสีย สัตย์ที่ให้ไว้แก่นางไกยเกษี มีพฤติกรรมที่แสดงถึงความเป็นลูกที่ดี คือเคารพเชื่อ ฟังบิดาโดยไม่ได้ แย้ง มีความรักและกตัญญูต่อผู้เป็นมารดาเสมอกันหมดไม่ว่าจะเป็นมารดาบังเกิดเกล้าหรือมารดาเลี้ยง
ในฐานะพี่ ไม่มีความอิจฉาริษยาน้อง มีความยินดีที่น้องได้ดี มีของวิเศษหรือของมีค่าที่ตนพึงได้ ก็เสีย สละให้น้องก่อน แสดงถึงความรักและเมตตาพี่ที่มีต่อน้องอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยมีถ้อยคำที่ แสดงความโกรธหรือข่มขู่น้องแบบทศกัณฐ์เลย
ในฐานะคนรักและสามี เป็นคนที่รักหญิงผู้เป็นภรรยามาก ไม่เคยไปรักหญิงอื่นใดเลย ในหัวใจของ พระรามมีแต่นางสีดานางเดียวเสมอ นับเป็นพฤติกรรมหายากมากในวรรณคดีไทยซึ่งพระเอกมักจะ มีนิสัยเจ้าชู้
ในฐานะกษัตริย์ มีความเมตตากรุณาต่อไพร่ฟ้าอาณาประชาราษณ์ เป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีใครทำความดี ความชอบจะให้รางวัล และหากใครทำผิดก็จะพิจารณาโทษ มีความหนักแน่นรอบคอบมีสติ ไม่หูเบาเชื่อ เรื่องอะไรง่ายๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติของเจ้านายที่จะปกครองคนและบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองได้
พระรามจักเป็นพระมหากษัตริย์และเจ้านายที่ดี ไม่หูเบา เชื่อคนง่าย และมีใจหนักแน่น รักเดียวใจ เดียวและมีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
ประวัติโรงเรียน
โรงเรียนสกลวิทยาเป็นโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาภายใต้สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ นายสกล เย็นสบาย เป็นผู้รับใบอนุญาต และเป็นผู้จัดการเมื่อวันที่ 28 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2528 ขออนุญาตแต่งตั้ง นางสุธาดา เหมือนจันทร์เชยเป็นครูใหญ่ ได้รับโอนกิจการจากโรงเรียนสันติราษฎร์ศึกษา เดิมอยู่ในบริเวณโรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2506 ต่อมาขอย้ายสถานที่เรียนอาคารเรียนจากหลังเดิม มาเปิดทำการสอนที่อาคารหลังใหม่ เป็น“เรือนปั้นหยาสองชั้น ”
เมื่อปี พ.ศ. 2506 เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 จำนวนนักเรียน 420 คน
เมื่อปี พ.ศ. 2507 เปิดทำการสอนระดับอนุบาล1-3
เมื่อปี พ.ศ. 2515 เปิดขยายชั้นเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
เมื่อปี พ.ศ. 2528 ขออนุญาตยุบชั้นเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
เมื่อปี พ.ศ. 2546 ขออนุญาตขยายชั้นเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
เมื่อปี พ.ศ. 2556 ขออนุญาตขยายชั้นเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ขอเพิ่มหลักสูตรระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (วิทย์-คณิต และศิลป์-ภาษา )
เมื่อปี พ.ศ. 2565 ขออนุญาตขยายชั้นเตรียมอนุบาล 2 ขวบ
ปัจจุบันได้สร้างอาคารขึ้นอีกหลายหลัง โรงเรียนสกลวิทยามีเนื้อที่ 11 ไร่ 80 ตารางวา
มีอาคาร 7 หลัง ได้แก่
อาคาร 1 “อาคารมารดานุสรณ์” เป็นอาคาร 2 ชั้น เป็น“เรือนปั้นหยาสองชั้น ”
อาคาร 2 “อาคารพร้อมศาสตร์” สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2537 เป็นอาคารเรียนคอนกรีตเสริมเหล็ก 5 ชั้น
อาคาร 3 “อาคารสกลพิทักษ์” สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2542 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 5 ชั้น
อาคาร 4 “อาคารรักสามัคคี” สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2543 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้น
อาคาร 5 “อาคารพร้อมศาสตร์” เป็นอาคารที่ก่อสร้างใหม่เชื่อมต่อติดกับอาคารหลังที่ 2 สร้างเมื่อ ปี พ.ศ. 2547 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 5 ชั้น
อาคาร 6 สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2555 เป็นอาคารเรียนคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น
อาคาร 7 “อาคารเย็นสบาย” สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2557 เป็นอาคารเรียนคอนกรีตเสริมเหล็ก 4 ชั้น
ปี พ.ศ.2537 ได้ทำการก่อสร้างอาคารหลังใหม่ 5 ชั้น ในบริเวณที่เคยเป็นที่พักอาศัย โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้าง 5 เดือน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักเรียนได้จัดสร้างห้องประกอบ เช่น ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์ และห้องก.พ.อ. เพื่อปรับปรุงสภาพแหล่งเรียนรู้
หลังจากนั้นในปีพ.ศ. 2542 โรงเรียนได้เริ่มก่อสร้าง อาคารสำนักงาน เพื่อเป็นสถานที่ประชุม
ห้องประกอบและห้องสมุดให้มีขนาดใหญ่ขึ้นและเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักเรียนและผู้ปกครองเมื่อเสร็จสิ้นอาคารสำนักงาน
ในปี พ.ศ. 2543 โรงเรียนได้ทำการก่อสร้างอาคารพลศึกษาซึ่งประกอบไปด้วย โรงพลศึกษา สำหรับ
การเรียนและการแข่งขันกีฬาเพื่อแก้ปัญหาเรื่องพื้นที่ที่มีอยู่จำกัดของโรงเรียนและชั้นสามได้สร้างสระว่ายน้ำสำหรับนักเรียนอนุบาลและสระใหญ่สำหรับเด็กโตทั้งนี้เพื่อให้มีสถานที่เพียงพอสำหรับทำกิจกรรมของนักเรียน
ในปี พ.ศ. 2547 จึงจัดสร้างอาคารเรียนอีกหนึ่งหลัง ทำให้โรงเรียนสามารถสร้างห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ขนาดใหญ่ ห้องคอมพิวเตอร์ ห้องดนตรี ห้องนาฎศิลป์ ห้องโขน มีผลให้การจัดการเรียนการสอน โดยเฉพาะวิชาพิเศษ มีความเพียบพร้อมและสมบูรณ์ในการจัดการเรียนการสอน
ในปี พ.ศ. 2555 โรงเรียนสกลวิทยา ได้ตัดสินใจเช่าที่ดิน ณ บ้านเลขที่ 61/1 หมู่ 9 ตำบลสามพราน
อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม จัดสร้างอาคารสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องเรียน
ห้องประกอบ โรงพลศึกษา และลานเอนกประสงค์ บริเวณโรงเรียนมีความร่มรื่น สำหรับนักเรียนที่รักการ
ออกกำลังกาย การลงทุนในการก่อสร้างในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่ให้โรงเรียนมีสถานที่จัดกิจกรรม ที่เพียงพอและมีบรรยากาศที่ร่มรื่นเอื้อต่อการเรียนรู้
ในปี พ.ศ. 2556 เป็นปีที่โรงเรียนเปิดทำการมาครบ 50 ปีบริบูรณ์
ภายในปีการศึกษา 2553-2556 โรงเรียนสกลวิทยาจัดการศึกษาให้ได้มาตรฐาน และจัดการเรียนการสอนเพื่อสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการ มุ่งสร้างครูสู่คุณภาพ โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ พัฒนาผู้เรียนสู่ประชาคมอาเซียน ใช้สื่อนวตกรรมที่ทันสมัย มีแหล่งการเรียนรู้ที่หลากหลาย ส่งเสริม คุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะ บุคลิกภาพงามอย่างไทย และรักษ์สุขภาพอนามัย ห่างไกลยาเสพติด ดำรงชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย เพื่อสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างปกติสุข
ต่อมาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2553 นางสุธาดา เหมือนจันทร์เชย ได้รับโอนโรงเรียนให้เป็น
ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนสกลวิทยา พร้อมแต่งตั้งนางสาวพรรณพิลาส เหมือนจันทร์เชย ซึ่งเป็นบุตรสาวคนเดียวดำรงตำแหน่งเป็นผู้ช่วยฝ่ายบริหารโรงเรียนสกลวิทยา
ในปีการศึกษา 2555 นางสุธาดา เหมือนจันทร์เชย ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนสกลวิทยา มีความจำเป็น ต้องขอขยายพื้นที่ สร้างอาคารเรียนเนื่องจากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น สถานที่สำหรับจัดกิจกรรมให้นักเรียนไม่เพียงพอ อีกทั้งขาดความคล่องตัวในการดำเนินการ การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน และการจัดกิจกรรมพิเศษ เช่น ลูกเสือและเนตรนารี กีฬาสี วิชาเกษตรและวิชาช่าง เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายที่โรงเรียนต้องการให้มีการจัดกิจกรรมที่หลากหลายให้สอดคล้องกับความต้องการจำเป็น ความสนใจ และความถนัดของนักเรียนเพื่อผลสัมฤทธิ์ที่ดีในอนาคต ตามนโยบายและแผนงานบริหารงานพัฒนาโรงเรียนสกลวิทยา จึงได้ติดต่อขอเช่าที่ดินของ นางสาวพรรณพิลาส เหมือนจันทร์เชย โดยทำสัญญา 10 ปี เป็นจำนวนเงินปีละ 10,000 บาท มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ 1 งาน 74 ตารางวา เพื่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มอีกเป็นอาคารเรียนคอนกรีตเสริมเหล็ก 3 ชั้น
ในปีการศึกษา 2555 นางสาวพรรณพิลาส เหมือนจันทร์เชย ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนสกลวิทยาปัจจุบันนางสาวพรรณพิลาส เหมือนจันทร์เชย ได้รับโอนใบอนุญาตจัดตั้งโรงเรียน เป็นผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนสกลวิทยา เมื่อ วันที่ 12 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564
แผนและขั้นตอนการดำเนินการในการโอนกรรมสิทธิ์ หรือสิทธิ์ครอบครองในที่ดิน
โรงเรียนได้ดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอบในที่ดินซึ่งเป็นสถานที่ตั้งโรงเรียนจำนวน 1 ไร่ 3 งาน 4 ตารางวา ให้เป็นของโรงเรียนตามที่พระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๕๐ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. ๒๕๕๔ กำหนด และในการขอขยายพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 61/1 หมู่ 9 โรงเรียนได้ทำการเช่าที่ดิน จำนวน 5 ไร่ 1 งาน 74 ตารางวา จากนางสาวพรรณพิลาส เหมือนจันทร์เชย โดยทำสัญญา 10 ปี เป็นจำนวนเงินปีละ 10,000 บาท
ในปีการศึกษา 2562 นางสาวพรรณพิลาส เหมือนจันทร์เชย ได้ซื้อที่ดิน จำนวน 6ไร่ รวมเนื้อที่ทั้งหมด 11 ไร่ 1 งาน 74 ตารางวา
นันท์นภัส ลิ้มนุสนธิ์
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ