ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.,พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้เร่งรัดปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยปัจจุบันสถิติอาชญากรรมที่มีการใช้นำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนก่อเหตุอาชญากรรมมีเพิ่มมากขึ้นเป็นอย่างมาก อาทิ เหตุกราดยิงภายในห้างสรรพสินค้า,เด็กนักเรียนนักศึกษาต่างสถาบันนำอาวุธปืนไปใช้ยิงคู่อริ เป็นต้น โดยสืบสวนขยายผลจนทราบว่าผู้ก่อเหตุซื้ออาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนเพื่อมาก่อเหตุผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ตระหนักและเน้นย้ำให้กำลังพลในสังกัดเฝ้าสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มเครือข่ายที่ลับลอบจำหน่ายอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนขนาดต่างๆ ทางออนไลน์และช่องทางอื่นให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง จนชุดลาดตระเวนออนไลน์ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ออกแกะรอยสืบสวน
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ. นิวัฒน์ อุทัยศรี รอง ผบก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.พัชรพงษ์ กาญจนวัฏศรี,พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น.,พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.,ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการที่ 5 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. จับกุมตัว นายสันติ์ฯ อายุ 66 ปี ภูมิลำเนา แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
โดยพบตัวขณะขับรถกระบะส่วนตัว นำกระสุนปืนขนาดต่างๆ ไปจัดส่งพัสดุให้แก่ลูกค้าที่สั่งซื้อที่บริเวณโกดังจัดส่งพัสดุบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งภายในซอยปรีดีพนมยงค์ 14 สามารถตรวจยึดของกลาง 1.กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 3,050 นัด,2.กระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 50 นัด,3.กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 2,500 นัด,4.กระสุนปืน ขนาด .22 LR จำนวน 21,150 นัด,5.กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 1,050 นัด,6.กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 100 นัด,7.กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1,300 นัด,8.กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1,650 นัด,9.กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 800 นัด และ 10. กระสุนปืน ขนาด .32 จำนวน 150 นัด รวม จำนวน 31,800 นัด ซึ่งมีการบรรจุพัสดุจ่าหน้าซองผู้ส่ง – ผู้รับ เรียบร้อยเพื่อเตรียมจัดส่งให้แก่ลูกค้า นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นภายในรถกระบะซึ่งผู้ต้องหาขับมาส่งพัสดุพบ กระสุนปืนขนาด .45 จำนวน 2,500 นัด บรรจุอยู่ในกล่องห่อด้วยกระดาษที่น้ำตาลอำพราง จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสันติ์ฯ ไปที่บ้านเลขที่ 125 ซอยเจริญใจ ถนนเอกมัย แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เพื่อเข้าตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค 45/2567 ลงวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2567 ผลการตรวจค้น พบ กระสุนปืน ขนาด .22 LR จำนวน 21,150 นัด,กระสุนปืนลูกซอง ขนาด 12 จำนวน 1,050 นัด,กระสุนปืน ขนาด .45 จำนวน 100 นัด,กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1,300 นัด,กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 1,650 นัด,กระสุนปืน ขนาด .380 จำนวน 800 นัด,กระสุนปืน ขนาด .32 จำนวน 150 นัด และกล่องพัสดุเปล่าสำหรับเตรียมบรรจุจัดส่งพัสดุ และอุปกรณ์สำหรับแพ็คส่งพัสดุ จำนวนหนึ่ง
รวมกระสุนที่ตรวจค้นพบทั้งหมด จำนวน 31,800 นัด
จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายเครื่องกระสุนปืนสำหรับการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการซักถามนายสันติ์ฯ หรือ สันติ์ ปรีดี ให้การภาคเสธ โดยให้การว่าเดิมทีตนเปิดบริษัทเกี่ยวกับขายวัสดุก่อสร้าง ต่อมาตนประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ มีเพื่อนแนะนำให้เข้าไปทำงานเป็นเซลล์ในบริษัทจำหน่ายกระสุนรายหนึ่งจนมีความรู้ ทำได้ประมาณ 1 ปี จึงลาออก เนื่องจากตนมีฐานลูกค้าและได้รู้จักกับคนในวงการพอสมควรจึงสามารถติดต่อสั่งซื้อกระสุนปืนขนาดต่างๆ จากตลาดมืด เพื่อนำมาส่งขายให้แก่ลูกค้าต่างๆ ซึ่งสั่งซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ที่ผ่านมาทำมาแล้วประมาณ 6–7 เดือน มีลูกค้าสั่งวันละกว่า 10 ราย ราคากระสุนขายบวกกำไรกว่าราคากระสุนที่ขายตามสนามยิงปืน และร้านปืนกว่า 1 เท่าตัว มีรายได้ต่อเดือนกว่าเดือนละ 100,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่เกี่ยวข้องกับคดี นำส่ง พงส.สน.คลองตัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป