เมื่อวันนี้ 1 มีนาคม 2567 เวลาประมาณ 13.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเวียงสา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และ เจ้าหน้าที่ ปปส.ภาค 5 ได้เข้าตรวจสอบเป้าหมายจากการขยายผลจับกุมคดียาเสพติด สืบเนื่องจากเมื่อ 29 กุมภาพันธ์ 2567เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับ เจ้าหน้าทร่ตำรวจกองบัญชาดารตำรวจปราบปรามยาเสพติดสกัดจับกุมขบวนการผู้ค้ายาเสพติดขณะใช้รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อ HINO สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-xxxx น่าน ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือจากจังหวัดพะเยา เพื่อนำมาส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพื้นที่เขตปริมณฑล กรุงเทพมหานคร ที่บริเวณปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริมถนนสายเอเชีย ฝั่งขาเข้ากรุงเทพมหานคร ตำบลหันสัง อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สามารถจับผู้ต้องหาลักลอบค้ายาเสพติด จำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายจรัส ขอสงวนนามสกุล อายุ ภูมิลำเนา ตำบลสกาด อำเภอปัว จังหวัดน่าน และนายธีรนันท์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 45 ปี ภูมิลำเนา ตำบลขึ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน
โดยนำกำลังเข้าตรวจค้นที่เพิงพักในคอกวัว บริเวณห้วยเสือ ตำบลอ่ายนาไลย อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน สามารถขยายผลจับกุมนายปืน (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ภูมิลำเนา ตำบลอ่ายนาไลย อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ลูกชายของนายจรัส ตรวจค้นภายในเพิงพักพบยาบ้า ตราประทับ 99 จำนวน 5,870 เม็ดซุกซ่อนอยู่ เมื่อสอบถามนายปืนให้การว่า ตนเสพยาบ้าตั้งแต่อายุ 12 ปี และเสพมาตลอดจนจบ ม.ต้น พ่อบอกไม่ต้องเรียนต่อเลยออกมาเลี้ยงวัว โดยพ่อของตนเองได้จัดหามาให้เสพและร่วมกันเสพด้วย โดยก่อนหน้าที่พ่อจะไปถูกจับได้นำยาบ้าที่พิมพ์ตราปะทับ 99 ไม่ใช่ WY มาให้ตน จำนวน 3 มัด (6,000 เม็ด) พอได้มาตนก็แกะลองเสพไป 130 เม็ด แล้วหลับตื่นมา เจ้าหน้าที่ก็บุกเข้ามาตรวจค้น
เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมนายปืน นามสมมุติ พร้อมแจ้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายจ่ายแจกโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และเสพยาเสพติดให้โทษชนิดร้ายแรงประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 5,870 เม็ด จากนั้นได้ทำการตรวจสอบและได้ทำการตรวจยึดอายัดทรัพย์สินรวม 6 รายการ ประกอบด้วย รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ รถกระบะ รถจักยานยนต์ วัว และอื่นๆ มูลค่าเบื้องต้นประมาณ 2.2 ล้านบาทและดำเนินการสืบทราบหาทรัพย์สินที่ซุกซ่อน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
รายงาน ธงชัย ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัด น่าน