“บุคคลแรก อธิบดีกรมการปกครอง ขอให้ตรวจสอบมูลนิธิอนุรักษ์ช้างภูเก็ต นายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ “ฝรั่งเตะหมอ” บุคคลที่ 2 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับนายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ และ อธิบดีกรมที่ดิน ขอให้ตรวจสอบที่ดินเอกสาร นส.3 ก. เลขที่ 3411 บริเวณที่เกิดเหตุฝรั่งเตะหมอว่าออกโดยผิดกฎหมายหรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไร…”
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2567 นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้ส่งหนังสือร้องเรียนถึง 3 บุคคลสำคัญ ได้แก่ นาย อรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง เพื่อขอให้ตรวจสอบมูลนิธิอนุรักษ์ช้างภูเก็ต นายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ “ฝรั่งเตะหมอสาว” หน่วยงานที่ 2 ได้แก่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับนายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิด และอีกหน่วยงานคือ พรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน ขอให้ตรวจสอบที่ดินเอกสาร นส.3 ก. เลขที่ 3411 บริเวณที่เกิดเหตุฝรั่งคนดังกล่าว ว่าออกโดยผิดกฎหมายหรือไม่ และจะดำเนินการอย่างไร โดยนายวัชระฯ ระบุว่า
ตามที่ปรากฏข่าวเกี่ยวกับเหตุทำร้ายร่างกายคนไทยที่บริเวณหาดยามู ตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 20.50 น. น.ส.ธารดาว จันทร์ดำ อายุ 26 ปี แพทย์ประจำโรงพยาบาลดีบุก แจ้งว่าตนเดินทางไปรับประทานอาหารบริเวณหาดยามู หลังรับประทานอาหารเสร็จได้เดินเล่นบริเวณชายหาด จากนั้นไปนั่งพักผ่อนดูพระจันทร์ที่บันไดคอนกรีตทางขึ้นไปสนามหญ้าหน้าบ้านของนายออสบีทเฟร์ (MR.URSBEATFEHR) หรือนายเดวิด อายุ 45 ปี สัญชาติสวิตเซอร์แลนด์อยู่ติดกับชายหาดดังกล่าว จากนั้นนายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิดได้เดินเข้ามาด้านหลังและเตะเข้าบริเวณหลังของผู้เสียหาย รวมทั้งแสดงกริยาถ่อย กักขฬะและพูดจาดูหมิ่นดูแคลนชาวปักษ์ใต้โดยอ้างภายหลังว่านึกว่าเป็นชาวจีนนั้น เป็นการหยามหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างยิ่งและเป็นพฤติกรรมที่ผิดกฎบัตรปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง
เนื่องจากมีข้อเท็จจริงว่า นายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิด เป็นเจ้าของปางช้างแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต และมีการเช่าช้างมาประกอบธุรกิจศูนย์อนุรักษ์ช้างภูเก็ต ชื่อนายออสบีทเฟร์ (MR.URSBEATFEHR) ในนามบริษัท อีเลเฟนท์ แซงชัวรี่ พาร์ค ภูเก็ต จำกัด แต่มีข่าวว่าซื้อช้างมาอนุรักษ์แค่ตัวเดียว ที่เหลือคือการเช่าช้างมาประกอบธุรกิจศูนย์อนุรักษ์ช้างโดยเรียกรับเงินบริจาคเป็นการหากินกับช้างเพื่อขอรับบริจาคซึ่งเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย อีกทั้งวิลล่าหรูที่พักของนายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิด ที่ตั้งอยู่บริเวณชายหาด “อ่าวยามู” ต.ป่าคลอก จ.ภูเก็ต นั้นมีค่าเช่าหลังละ 1 ล้านบาทต่อเดือน จึงเป็นที่สงสัยว่ามีรายได้จากการประกอบธุรกิจอะไร ถึงสามารถใช้ชีวิตอย่างหรูหราในจังหวัดภูเก็ตได้ กอปรกับมีพฤติกรรมอาจทำตนเป็นผู้มีอิทธิพลก้าวร้าวทำร้ายคนไทย ชูนิ้วกลางใส่รถพยาบาลที่ขับตามหลังบนท้องถนน ฯลฯ
ดังนั้นเพื่อให้คลายความกังวลและข้อสงสัยจากพี่น้องประชาชนและศักดิ์ศรีของประเทศ ข้าพเจ้าจึงขอให้กรมการปกครองดำเนินการตรวจสอบมูลนิธิอนุรักษ์ช้างภูเก็ตของนายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิดว่าผิดกฎหมายข้อใดหรือไม่ หากพบพฤติการณ์เข้าข่ายเป็นความผิดแล้ว ก็ขอให้ท่านดำเนินการตามกฎหมายยุบเลิกมูลนิธิโดยเร็วที่สุดต่อไป
นายวัชระฯ กล่าวต่อว่า ตนได้ร้องไปยัง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เพื่อขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการตรวจสอบว่ามีตำรวจชั้นผู้ใหญ่หนุนหลังนายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิด จริงหรือไม่ มีพฤติการณ์ให้ความช่วยเหลือนายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิด ไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายหรือไม่ ใครเป็นผู้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปพบผู้เสียหายในที่เกิดเหตุและแนะนำในทางที่ผิดๆ หากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้องควรต้องย้ายออกจากพื้นที่และให้ดำเนินคดีกับนายออสบีทเฟร์หรือนายเดวิดอย่างตรงไปตรงมาโดยเร็วที่สุดต่อไป และขอให้อบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่ต้องพิทักษ์ศักดิ์ศรีของชาติ อย่าเห็นคนต่างชาติดีกว่าคนไทย
นายวัชระฯ ยังกล่าวอีกว่า “ตนยังได้ร้องไปยัง พรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เพื่อขอให้กรมที่ดินดำเนินการตรวจสอบเอกสาร นส.3 ก. เลขที่ 3411 บริเวณแหลมยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต จำนวน 106-0-19 ไร่ ออกเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2548 ออกทับที่สาธารณะหรือที่หลวงอื่นใดหรือไม่ หากผิดกฎหมายให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด อย่าละเว้นโดยเร็วที่สุดต่อไป” นายวัชระฯ กล่าวในที่สุด