ศึกกอล์ฟเมเจอร์แรกของปี รายการ เดอะ มาสเตอร์ส 2017 ที่สนาม ออกัสต้า เนชั่นแนล กอล์ฟ คลับ เมืองออกัสต้า รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐฯ ระยะ 7,435 หลา พาร์ 72 ชิงเงินรางวัลรวม 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 300 ล้านบาท) เป็นการประชันวงสวิงรอบสุดท้าย เมื่อคืนที่ผ่านมา
ปรากฏว่า เซร์คิโอ การ์เซีย โปรมือ 11 ของโลก จากสเปน ปลดล็อก คว้าแชมป์เมเจอร์แรกในอาชีพ รายการ เดอะ มาสเตอร์ส 2017 ได้สำเร็จ หลังทำสกอร์รวม 4 วัน เท่ากับ จัสติน โรส โปรหนุ่มจาก อังกฤษ ที่ 9 อันเดอร์พาร์ 279 ทำให้ต้องดวลเพลย์ออฟหาผู้ชนะ และต้องตัดสินกันในช่วง ซัดเดน เดธ ที่หลุม 18 พาร์ 4 โดย เจ้าของเหรียญทอง โอลิมปิก 2016 ที-ออฟ หลุดแฟร์เวย์เข้าป่า ขณะที่ การ์เซีย พัตต์เบอร์ดี้ ระยะ 12 ฟุต ลงหลุม คว้าแชมป์ไปนอนกอดอย่างน่าเหลือเชื่อ
ทั้งนี้ การ์เซีย ไม่เคยคว้าแชมป์มาตลอด 73 เมเจอร์ นับเป็นโทรฟี่เมเจอร์ใบแรกที่ “เอล นีโญ่” ออกเทิร์นโปร ตั้งแต่ปี 1999 โดยเป็นโปรชาวสแปนิช รายที่ 3 ที่ได้สวม กรีน แจ็คเก็ต ต่อจาก เซบี บาเยสเตรอส ตำนานผู้ล่วงลับ ในปี 1980, 1983 และ โฆเซ่ มาเรีย โอลาซาบัล ในปี 1994, 1999 ก่อนหน้านี้ การ์เซีย ทำได้ดีสุดเพียง อันดับ 3 ร่วม รายการ ยูเอส โอเพ่น เมื่อปี 2005, รองแชมป์ ดิ โอเพ่น และ พีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ อีกอย่างละ 2 สมัย
การ์เซีย วัย 37 ปี กล่าวหลังจากคว้าแชมป์ว่า มันช่างมหัศจรรย์ ที่ทำได้ในวันเกิด อายุครบ 60 ปี ของ บาเยสเตรอส และประสบความสำเร็จเช่นเดียวกัน รวมถึง โฆเซ่ มาเรีย โอลาซาบัล เพราะทั้งคู่คือไอดอล ซึ่งมันวิเศษมากที่ โฆเซ่ มาเรีย ส่งข้อความมาหาเขา ตั้งแต่วันพฤหัสบดี โดยบอกว่า เขาเชื่อมั่นในตัวผม และให้เชื่อมั่นในตัวเอง แน่นอนว่า ทุกคนรอบข้างยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว และคู่หมั้น