เมื่อเวลา 11.00น.วันที่ 4 มี.ค.ที่กองกำกับการสืบสวนนครบาล 8 (กก.สส.บก.น.8) พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.น.8 พ.ต.อ.บุญส่งวิทย์ ห้องแซง รอง ผบก.น.8 พ.ต.อ.โชติช่วง รัศมี ผกก.สส.บกน.8 พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายอัยยะปุระ หรือ บังยะ เขี้ยวแก้ว อายุ 20 ปี พร้อมด้วยของกลางไอซ์ 7 ก.ก. คีตามีน 20 ก.ก.รถเก๋งโตโยต้า ยารีส สีดำ ทะเบียน ขข 2896 สุราษฎร์ธานี รถจยย.ฮอนด้า เวฟ125ไอ ทะเบียน 2ขข 3576 กรุงเทพมหานคร เครื่องชั่ง1ตัว และโทรศัพท์มือถือ1เครื่อง โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยรามอินทรา65 แยก2-14 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.ภานพ กล่าวว่า เจ้าหน้าตำรวจสืบสวนนครบาล 8 ได้สืบสวนติดตามเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ จนทราบว่ามีเครือข่ายยาเสพติดย่านรามอินทรา ลักลอบจำหน่ายและส่งยาเสพติดให้กับเครือข่ายต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยกลุ่มดังกล่าวจะมีพฤติกรรมใช้รถยนต์ไปจอดภายในซอยรามอินทรา 65 ซึ่งเป็นที่ลับตาคน แล้วนำยาเสพติดปริมาณมากมาเก็บซุกซ่อนไว้ในรถ แล้วจะทยอยนำออกไปส่งต่อให้กับลูกค้ารายย่อยในช่วงเวลาค่ำและดึก โดยใช้รถจยย.นำยาเสพติดไปวางทิ้งไว้ตามจุดต่างๆ แล้วให้ลูกค้ามารับไป เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม โดยได้ค่าจ้างครั้งละ5,000-10,000บาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้สืบสวนเฝ้าติดตามพฤติการณ์เรื่อยมา เชื่อว่ามียาเสพติดอยู่ในรถยนต์คันที่ใช้เป็นที่เก็บซุกซ่อนยาเสพติด บริเวณซอยรามอินทรา 65 จึงได้นำกำลังไปเฝ้าจุดสังเกตการณ์ จนกระทั่งเวลาจับกุม พบนายอัยยะปุระ หรือบังยะ ฯ ขับขี่รถจยย.มาจอดภายในซอยแล้วเดินเข้าไปภายในรถยนต์คันดังกล่าว ลักษณะเข้าไปจัดเตรียมยาเสพติดเพื่อที่จะนำออกไปส่งให้กับลูกค้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปแสดงตัวจับกุม และตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าว พบ ไอซ์ จำนวน 7 กิโลกรัม ซุกซ่อนในกระเป๋าวางอยู่ที่เบาะหลังและเคตามีน จำนวน 20 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระโปรงท้ายรถ และตาชั่งดิจิตอล ถุงซิป และอุปกรณ์แบ่งบรรจุจำนวนมาก จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางนำไปสอบสวนที่กก.สส.บกน.8
สอบสวน นายอัยยะปุระ หรือบังยะ ฯ รับสารภาพว่า ตนรับจ้างนำยาเสพติดมาเก็บซุกซ่อน แล้วกระจายยาเสพติดส่งต่อ ไปให้ลูกค้าที่มารับยาเสพติด ทำมาประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ได้ค่าจ้างครั้งละ5พัน ถึง1หมื่นบาท โดยผู้สั่งการจะเป็นผู้สั่งให้ไปรับยา ส่งยา ตามเวลาและสถานที่ต่างๆ ซึ่งตนเองไม่รู้จักทั้งผู้ส่งและผู้รับเลย อีกทั้งยังสั่งให้ใช้รถยนต์เป็น “เซฟยาเคลื่อนที่”และบรรจุยาในใส่ถุงของใบชา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจค้นและจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) อันเป็นกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (คีตามีน) อันเป็นกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน นำตัวส่งบช.ปส. ดำนินคดีตามกฏหมายต่อไป
///