เมื่อวันที่ 3 มี.ค. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 ร.ต.อ.ขวัญชัย ปานคง รอง สว.กก.1 บก.สอท.5 จับกุมตัวนายศุภฤทธิ์ กิจนาเรือง อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญาที่ 595/2566ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์สินของผู้อื่น, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และเป็นการกระทำเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ผู้ออกได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้ เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือหนี้อื่นใดแทนการชำระด้วยเงินสด หรือใช้เบิกถอนเงินสด โดยจับได้บริเวณด่านขาเข้า จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.5 ได้ทำการสืบสวนทราบว่าขบวนการหลอกติดตั้ง App การไฟฟ้าปลอม ดูดเงินเหยื่อจนเกลี้ยงบัญชี จากนั้นได้ทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาซึ่งทำหน้าที่ต่างๆ ในขบวนการ และจับคนร้ายได้ส่วนหนึ่งแล้วนั้น ต่อมาวันที่ 1 มี.ค. ได้สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหากำลังจะเดินทางกลับมาจากปอยเปต ผ่านด่านตม.สระแก้ว จึงได้วางแผนร่วมจับกุม
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การยอมรับว่า ตนเองเป็นบุคคลตามหมายจับจริง และเคยทำงานให้กับกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งปอยเปตจริง ที่ผ่านมาทำมาแล้ว 1 ปี หลอกได้เงินมากสุด 1 ล้าน และได้เงินในการหลอก 10%-20% ต่อครั้ง ได้เงินมากว่า 5 แสนบาท โดยตนเองทำหน้าที่ตัวหลอกสายที่ 1 และในคดีที่หลอกผู้เสียหายจนผูกคอตายที่จังหวัดสมุทรปราการ ที่เคยเป็นข่าว เป็นกลุ่มเดียวกันกับตนเอง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.สอท.5 เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป