สื่อต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์โจมตีทางอากาศ ด้วยการยิงขีปนาวุธร่อนนำวิถีระยะไกล โทมาฮอว์ก ราว 50-60 ลูก จากกลุ่มเรือพิฆาตที่อยู่ในเขตน่านน้ำสากล ทางตะวันออกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ ตามเวลาท้องถิ่นในซีเรีย
เป้าหมายการโจมตีครั้งนี้ของสหรัฐฯ คือ คลังแสงอาวุธ รันเวย์ อากาศยาน สถานีเรดาร์ และสถานีเติมเชื้อเพลิงทั้งหมด ที่ตั้งอยู่ในฐานทัพอากาศเชย์รัต จังหวัดฮอมส์ ทางตะวันตกของซีเรีย ซึ่งปฏิบัติการดังกล่าว เป็นคำสั่งของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ที่ต้องการตอบโต้เหตุการณ์โจมตีทางอากาศใส่เขตข่าน-เชคุน ซึ่งเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มกบฏ ในจังหวัดอิดลิบ ทางตอนเหนือของซีเรีย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 86 ราย โดยเป็นผลจากการได้รับอาวุธเคมี ส่งผลให้ ทรัมป์ ออกมาประกาศว่า ต้องทำอะไรสักอย่างกับ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีของซีเรีย โดยต้องการหยุดการสังหารหมู่ และเหตุการณ์นองเลือดในซีเรีย และที่สำคัญเป้าหมายของการถูกโจมตีหนนี้ นั่งเป็นเพราะสถานที่เหล่านั้น เป็นที่ๆผู้นำซีเรีย ใช้เก็บอาวุธเคมี เพื่อเอาไว้ใช้สังหารประชาชน
ด้าน เพนตากอน ยืนยันว่า พวกเขาได้แจ้งไปยังรัฐบาลมอสโก เพื่อทราบเหตุการณ์โจมตีครั้งนี้ ว่าจะไม่สร้างความเสียหายให้กับกองทัพรัสเซีย ที่อยู่ภายในฐานทัพเชย์รัต แต่ วลาดิเมียร์ ซาฟรอนคอฟ อัครราชทูตรัสเซีย ประจำสหประชาชาติ หรือ (ยูเอ็น) ได้เตือนสหรัฐฯ ว่าเตรียมรับมือกับผลกระทบที่ร้ายแรง ที่จะเกิดขึ้นตามมาในภายหลัง ขณะที่ ซานา สื่อทางการของซีเรีย ประณามการโจมตีของสหรัฐฯครั้งนี้ว่า เป็นการก้าวร้าว
อย่างไรก็ตาม เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ระบุว่า คำสั่งของ ทรัมป์ เป็นการแสดงให้เห็นว่า พวกเขาพร้อมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด กับประเทศที่ล้ำเส้น พร้อมตำหนิรัสเซีย ว่าล้มเหลวต่อสถานการณ์ในซีเรีย
ขณะที่ พล.ท. เฮอร์เบิร์ต แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ เผยว่า ได้เสนอทางเลือกให้ ทรัมป์ 3 ทาง โดยท่านผู้นำได้เลือกใช้ 2 จาก 3 ข้อ ซึ่งไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ แต่ที่แน่ชัดคือ การโจมตีทางอากาศด้วยขีปนาวุธ นั่นคือ 1 ในตัวเลือก