เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 17.00 น. ที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานแถลงข่าว การตรวจยึดยาบ้าล็อตใหญ่ จำนวน 15 กระสอบ (6,000,000 เม็ด) และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รีโว้ สีขาว จำนวน 1 คัน โดยมี พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ แม่ทัพภาคที่ 2 , พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพน้อยที่ 2, พลตรี นรธิป โพยนอก ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 , นายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ , พลตำรวจตรี วิญญู อำนวยสมบัติ ,นายภิญโญ โฆสิต ผอ.ปปส.ภ.4 , พันเอก วีระวัฒน์ เท้าพิมพ์ เสนาธิการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, พันเอก สุภัทร ชูตินันทน์ รองผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 2 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี , นาวาเอกนัฐพัฒน์ ซื่อมงคล รองผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง , พันเอก สุริวัชร์ อัครพรเดชาพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 21/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 21 และตำรวจ สภ.บุ่งคล้า นรข.สถานีเรือบ้านแพง ตชด.244 และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ ให้การต้อนรับและร่วมแถลงข่าวในครั้งนี้
สืบเนื่องจากวันที่ 25 ต่อเนื่องวันที่ 26 ก.พ.เวลาประมาณ 19.00 น. กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี โดย กองร้อยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 2108 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 21 และตำรวจ สภ.บุ่งคล้า ได้รับข่าวสารจากการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานข่าวในพื้นที่ ว่าจะมีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไม่ทราบจำนวน ข้ามมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว เข้ามายังฝั่งไทย ในพื้นที่บ้านดอนใหญ่ ตำบลโคกกว้าง อำเภอบุ่งคล้า จังหวัดบึงกาฬ เพื่อลำเลียงขนส่งเข้าสู่พื้นที่ตอนใน จึงบูรณากำลังวางแผนร่วมกับกำลังในพื้นที่ ทำการซุ่มเฝ้าตรวจ บริเวณท่าทรายเก่าริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นพื้นที่จุดเพ่งเล็งตามที่รับแจ้ง ครั้นเมื่อเวลา 20.20 น. จึงตรวจพบรถยนต์กระบะสีขาวขับขึ้นมาจากริมแม่น้ำโขง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อทำการขอตรวจค้น เมื่อรถคันดังกล่าวพบเห็นเจ้าหน้าที่ จึงได้เร่งเครื่องรถยนต์หลบหนี ขณะนั้นทีมนำทางของกลุ่มผู้ต้องหา ยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนท.จึงยิงตอบโต้ไปหลายนัด และกระสุนถูกไปที่ท้ายรถยนต์ด้านหลังฝั่งซ้ายจำนวน 1 นัด จากนั้นคนขับได้จอดรถยนต์ทิ้งไว้และอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปไปพร้อมทีมนำทาง
เมื่อเข้าตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าว ตรวจพบสิ่งของต้องสงสัย จำนวน 15 กระสอบ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบเป็นยาบ้า บรรจุอยู่ภายใน (ประมาณ 6,000,000 เม็ด หากเม็ดละ 30 บาท จะรวมมูลค่ากว่า 180 ล้านบาท) จึงได้ทำการตรวจยึดยาเสพติดและรถยนต์กระบะ ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานบึงกาฬ เข้ามาเก็บรอยนิ้วมือแฝง ซึ่งจากการตรวจสอบภายในรถพบหลักฐานบัตรประชาชนของนายกฤษฎา อายุ 38 ปี และเป็นผู้ครอบครองรถยนต์คันดังกล่าว และอุปกรณ์เสพยาบ้า ขวดเบียร์ ขวดน้ำดื่ม จึงเก็บตัวอย่าง DNA ส่งไปตรวจ เพื่อขออนุมัติจากศาลออกหมายจับต่อไป หลังเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน จนท.ได้นำของกลางทั้งหมด มาตรวจนับที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 2108
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า โดยที่ผ่านมา กองทัพบก, กองทัพภาคที่ 2 และ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้ยึดถือตามกรอบ แนวคิดของรัฐบาล ที่ว่า แก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจังทั้งระบบ ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ปราบปรามแหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด การลดจำนวนผู้ค้าและผู้เสพรายใหม่ และให้ความรู้เยาวชนถึงภัยยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ได้บูรณาการกำลังป้องกันชายแดน และทุกส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมกันสกัดกั้น ป้องกันและปราบปราม การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน จนเกิดผลสัมฤทธิ์สามารถจับกุมตรวจยึดในกรณีสำคัญหลายครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ และต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันเป็นอย่างดี จนนำมาสู่การจับกุมดังกล่าว สุดท้ายขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ช่วยแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ เพราะหากท่านที่เป็นผู้ดูแลและอยู่ในพื้นที่ไม่แจ้งแล้วเจ้าหน้าที่ ก็คงจะรู้ได้ยาก อีกทั้งขอขอบคุณ ผู้สื่อข่าวทุกท่านที่ช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อไป
ภาพ : ฉก.ทพ.21
ข่าว : นายพรพิพัฒน์ เพ็ชรสังหาร ประธานศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ น.ส.พ.5 เหล่าทัพ/ผอ.ศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อินไท NEWS,น.ส.พ.ทันใจนิวส์