“กรมควบคุมโรค” เตือน 10 เมนูเสี่ยงอาหารเป็นพิษช่วงฤดูร้อน ชี้ลาบก้อย-ยำ-ข้าวผัด-ขนมจีน-อาหารมีกะทิ-ข้าวมันไก่ มาแรง
นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ช่วงนี้ประเทศไทยยังคงมีอากาศร้อนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นนั้นทำให้เชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอาหารเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว อาหารจึงบูดเสียได้ง่าย ประกอบกับใกล้เข้าสู่ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประชาชนมักจะซื้ออาหารหรือน้ำดื่มจากนอกบ้านมารับประทานร่วมกันเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล ซึ่งอาจมีเมนูอาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารหรือทำให้ป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษได้
จากข้อมูลสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 27 มีนาคม 2560 พบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ 28,138 ราย ไม่พบผู้เสียชีวิต กลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ 15-24 ปี (14.11%) 25-34 ปี (11.27%) และ 45-54 ปี (11.09%) ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยสูงสุด 5 อันดับแรกคือ ร้อยเอ็ด ลำพูน อุบลราชธานี ขอนแก่น แม่ฮ่องสอน ภาคที่มีอัตราป่วยสูงสุด คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รองลงมาคือ ภาคเหนือ และภาคใต้ตามลำดับ
สำหรับอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอาหารเป็นพิษที่ประชาชนควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ 10 เมนู ได้แก่
1.ลาบ/ก้อยดิบ
2.ยำกุ้งเต้น
3.ยำหอยแครง/ยำทะเล
4.ข้าวผัดโรยเนื้อปู
5.อาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของกะทิสด
6.ขนมจีน
7.ข้าวมันไก่
8.ส้มตำ
9.สลัดผัก และ
10.น้ำแข็งที่ผลิตไม่ได้มาตรฐาน
“เมนูอาหารเหล่านี้ควรรับประทานเฉพาะที่ปรุงสุกใหม่ ขอให้หลีกเลี่ยงการปรุงโดยวิธีลวกหรือพล่าสุกๆ ดิบๆ นอกจากนี้ อาหารกล่องควรแยกกับข้าวออกจากข้าว และควรรับประทานภายใน 2- 4 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ และหากมีกลิ่นผิดปกติไม่ควรรับประทาน”
สำหรับผู้เดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาล ควรเลือกร้านที่แน่ใจว่าสะอาดหรือมีเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย เลือกรับประทานน้ำดื่ม หรือน้ำแข็งที่มีเครื่องหมายรับรองคุณภาพจาก อย. ที่สำคัญ ควรล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ก่อนรับประทานอาหาร และหลังจากเข้าห้องน้ำทุกครั้ง สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” รับประทานอาหารปรุงสุกใหม่ๆ ไม่มีแมลงวันตอม ล้างมือด้วยน้ำและสบู่บ่อยๆ และรักษาสุขอนามัยพื้นฐาน จะช่วยป้องกันโรคอาหารเป็นพิษได้