4 เม.ย.60 กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 15 จังหวัดภาคใต้ เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในช่วงวันที่ 4-7 เมษายน 2560 โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างทันท่วงที รวมถึงสำรวจท่อระบายน้ำ ทางระบายน้ำไม่ให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมชายฝั่งทะเล รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคใต้ ประกอบกับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และฝนตกหนักมากบางแห่ง
โดยวันที่ 4–5 เมษายน 2560 มีฝนตกหนักและฝนตกหนักมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
และในช่วงวันที่ 6–7 เมษายน 2560 มีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ระนอง พังงา และภูเก็ต
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง คลื่นสูงประมาณ ๒ เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า ๒ เมตร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานจังหวัด ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมพร้อมรับมือฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ในช่วงระหว่างวันที่ 4–7 เมษายน 2560
โดยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญเหตุ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล ชุดกู้ชีพกู้ภัยทางน้ำและทางทะเล รวมถึงเครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทันทีที่เกิดภัย อีกทั้งสำรวจท่อระบายน้ำ ทางระบายน้ำไม่ให้มีสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ราบเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมชายฝั่งทะเล รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ สถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ ทางทะเล สถานประกอบการ ร้านค้าบริเวณริมชายหาด เรือโดยสาร นักท่องเที่ยว เกษตรกรที่ประกอบอาชีพประมง เพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ ให้ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัด ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป