“…วัชระ ร้อง ป.ป.ง. สอบสวนเส้นทางการเงิน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ รับรถเบนซ์สองคัน และแคชเชียร์เช็คธนาคาร ๒๕ ล้านบาท ขณะเป็นโฆษกกรรมาธิการงบประมาณ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ถาม เสียภาษีกับกรมสรรพากรหรือไม่ รับจ้าวให้ใคร?…”
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่สำนักงาน ป.ป.ง. นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) และ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ผ่านนางสาวสุปราณี สถิตชัยเจริญ รองโฆษกสำนักงาน ป.ป.ง. ขอให้สอบสวนจริยธรรมร้ายแรง นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ โดย นายวัชระ ระบุว่า
ข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมวลชนและเฟสบุ๊คของนายเรืองไกร “เรืองไกร นกมรจ” นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ได้รับรถเบนซ์ทั้งสองคันขณะเป็นโฆษกกรรมาธิการงบประมาณ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ และ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ตามสำเนาภาพจากเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ที่แนบมานี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) จึงถือว่าเป็น “เจ้าหน้าที่ของรัฐ” และปัจจุบันนายเรืองไกรฯ ได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐโดยมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรค ตามมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๕ วันที่ ๓-๕ มกราคม ๒๕๖๗ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๒) จึงอาจมีการกระทำที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ป.ป.ง. และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒
ในฐานะที่ตนเป็นประชาชนผู้เสียภาษีจึงขอร้องเรียนตามกฎหมาย ป.ป.ง. และจริยธรรมอย่างร้ายแรงว่านายเรืองไกรฯ ในฐานะผู้ถูกกล่าวหามีความผิดจากกรณีการครอบครองรถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน ได้แก่ รถเบนซ์สีดำจดทะเบียนในนามของนายเรืองไกรฯ และสีขาวไม่ทราบว่าจดทะเบียนในนามของผู้ใด (ปรากฏข่าวตามสื่อมวลชนจากการให้สัมภาษณ์ของนายเรืองไกรฯ ว่าผู้ใหญ่ใจดีซื้อให้) และหลังจากนายเรืองไกรได้รับการแต่งตั้งจากคณะรัฐมนตรีให้ดำรงตำแหน่ง คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ….. (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๓) ปรากฎข้อเท็จจริงว่านายเรืองไกรได้รับแคชเชียร์เช็คธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนประดิพัทธ์ เลขที่ ๐๐๐๙๐๙๘๒ ลงวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ (วันที่ 22 เดือน 02 ค.ศ. 2021) สั่งจ่ายชื่อ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๔) โดยขณะเกิดเหตุรับแคชเชียร์เช็ค นายเรืองไกรเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ รับเช็คมาจากผู้ใด สาเหตุใดเพราะมีมูลค่าสูงมากซึ่งผิดวิสัยของผู้ประกอบอาชีพสามัญทั่วไป
ดังนั้นขอให้หน่วยงานของท่านเป็นผู้แทนในการสอบทานและตรวจสอบว่ารถเบนซ์ จำนวน ๒ คัน และแคชเชียร์เช็ค จำนวนเงิน ๒๕ ล้านบาท ดังกล่าวนายเรืองไกรฯ เสียภาษีกับกรมสรรพากรหรือไม่ ที่ได้รับมาเกิดจากการรับทำงานให้ รับจ้างให้ใคร ซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษีอากรได้เสียภาษีถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นการได้มาจากการให้โดยเสน่หา และขอให้แจ้งกรมสรรพากรดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการเสียภาษีจากการมีรายได้และทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้น ตรวจสอบกรรมาธิการงบประมาณฯ ชื่อนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนักร้องเรียนและได้รับแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎรให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ เป็นกรณีที่อยู่ในความสนใจของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ จึงขอให้ท่านประธาน ป.ป.ง. ตั้งเรื่องการสอบสวนจริยธรรมโดยเร็วที่สุดว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิดตามกฎหมายและมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ เพื่อความยุติธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อปราบทุจริตตามนโยบายของสภาผู้แทนราษฎร
อนึ่งเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ของนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่ผ่านมาเคยเผยแพร่ภาพถ่ายคู่กับรถเบนซ์สีดำและสีขาวพร้อมเผยแพร่อย่างเปิดเผยกับสาธารณะนั้น (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๑) แต่บัดนี้ในปัจจุบันจากการสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตปรากฏว่าไม่พบเฟสบุ๊คของนายเรืองไกรแล้ว มีเหตุเชื่อได้ว่านายเรืองไกรได้ทำลายหลักฐานโดยปิดเฟสบุ๊ค “เรืองไกร นกมรจ” ไปแล้วตามเอกสารที่แนบมาพร้อมนี้ (สิ่งที่ส่งมาด้วย ๕)