“บิ๊กทิน“เปิด โครงการมวยไทยและศิลปะการป้องกันตัวค่ายทหาร
Muaythai and Martial in
Military Camps
”หมวดบัวขาว“ –
”ดร.หญิง“กองทุนฯกีฬาฯ ร่วม
เร่ง ผลักดัน ไปแข่ง ในโอลิมปิค ทหาร
เป็น Soft Power จากค่ายทหาร
คุย ฝีมือชกมวย
หมัดขวา ตาย!
หมัดซ้าย สลบ
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ
เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการมวยไทยและศิลปะการป้องกันตัวค่ายทหาร (Muaythai and Martial in
Military Camps)
โดยมี พลตรี นิรินธน์ ปุณโณทก ผู้บัญชาการศูนย์การกำลังสำรอง และ ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ
นายกสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ประธานสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (IFMA) ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์การกำลังสำรอง จ.ประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้มี พลโท ทวีพูล ริมสาคร ผบ.นรด., ว่าที่พันตรี กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ นายกสมาคมศิษย์เก่านักศึกษาวิชาทหาร, ว่าที่พันตรี กิติเฉลิม โครงกาพย์ ประธานชมรมการกำลังสำรองแห่งประเทศไทย, ว่าที่ร้อยโท ชิตพงศ์ ขัตตพงษ์ กรรมการสมาคมศิษย์เก่านักศึกษาวิชาทหาร ประธาน สศท.กทม. รองประธาน ชสท.กทม., ว่าที่ร้อยตรี ภูเมธ เงินศรีชัย ประธาน สศท.สมุทรปราการ ประธาน ชสท.เขตพระโขนง และคณะกรรมการและสมาชิกศูนย์ประสานงานเครือข่ายกำลังพลสำรองเพื่อความมั่นคง ศูนย์การกำลังสำรอง เข้าร่วมด้วย
รมว.กลาโหม กล่าวว่า มวยไทยเป็นพลังหลักของยุทธศาสตร์การสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ ใน
บทบาทของ Soft Power ที่โดดเด่นที่สุดในขบวนการศิลปวัฒนธรรมของชาติ
โครงการนี้จึงมีความสอดคล้อง
กับนโยบายของรัฐบาล และเป็นแรงผลักดันมาตรการดำเนินงานของภาครัฐไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย
นอกจากนั้น โครงการฯ นี้ยังได้รับการจัดขึ้นเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี โดยจัดเป็น Military Muaythai
เทิดไท้องค์ราชัน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” ตามพระราชเจตนารมณ์แห่งองค์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า
เจ้าอยู่หัวฯ อีกด้วย
ความสำคัญของโครงการอีกประการหนึ่งก็คือ เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างกองทัพบก โดยศูนย์
การกำลังสำรองกับสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ และ สหพันธ์มวยไทยนานาชาติ ในการ
พัฒนาศักยภาพบุคลากรจากกำลังพลของกองทัพ เข้าสู่ขบวนการผู้ฝึกสอนมวยไทย รวมทั้งสร้างนักกีฬามวย
ไทย เพื่อส่งกำลังพลที่ได้รับการรับรองความรู้ความสามารถไปทำหน้าที่ฝึกสอนในต่างประเทศ 
รวมทั้งการเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ ดังนั้นโครงการนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของ การผลักดันมวยไทยเข้าสู่การแข่งขันกีฬาทหาร ทั้งระดับภายในประเทศ และระดับกีฬาทหารโลก หรือซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการโอลิมปิกสากล ที่กำหนดให้ชนิดกีฬาที่จะได้การบรรจุเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ ต้องผ่านการแข่งขัน CISM มาก่อนด้วย จึงเท่ากับว่า กองทัพไทย ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันมวยไทยเข้าสู่กีฬาโอลิมปิกเกมส์โดยตรง และสามารถสนองตอบนโยบายของภาครัฐและความประสงค์ของกำลังพลของกองทัพบก รวมไปถึงเป้าหมายในการก้าวไปสู่โปรแกรมโอลิมปิกเกมส์ของกีฬามวยไทยต่อไปในอนาคต
ภาพข่าว : ว่าที่ร้อยโท ชิตพงศ์ ขัตตพงษ์