สหรัฐเรียกร้องให้เวเนซุเอลาจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด และปฏิเสธกดดันให้มีการขับอีกฝ่ายออกจากการเป็นสมาชิกขององค์การนานารัฐอเมริกัน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ว่านายมาร์ค โทเนอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี เรียกร้องให้ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา “จัดการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยเร็วที่สุด” และปล่อยตัวนักโทษการเมือง ที่รวมถึงนายเลโอโปลโด โลเปซ ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งอยู่ระหว่างรับโทษจำคุกเป็นเวลา 14 ปี ตั้งแต่ปี 2557 ในข้อหาปลุกระดมให้เกิดความรุนแรงที่เป็นการประท้วงทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม โทเนอร์ยืนยันว่าสหรัฐไม่ได้กำลังพยายามผลักดันให้มีการระงับสถานภาพสมาชิก หรือขับไล่เวเนเซุเอลาออกจากองค์การนานารัฐอเมริกัน ( โอเอเอส ) ที่มีสมาชิก 35 ประเทศและสหรัฐเป็นหนึ่งในนั้น แต่รัฐบาลวอชิงตัน “มีความวิตกกังวล” ต่อสถานการณ์ทางการเมืองในเวเนซุเอลา และเชื่อมั่นโอเอเอสจะสามารถจัดการกับเรื่องนี้ได้ ด้านนางเดลซี โรดริเกวซ รมว.กระทรวงการต่างประเทศเวเนซุเอลา วิจารณ์ท่าทีล่าสุดของสหรัฐว่ามีเป้าประสงค์ต้องการเพิ่มการโดดเดี่ยวรัฐบาลการากัส
ถ้อยแถลงดังกล่าวของโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐมีขึ้นในเวลาเดียวกับที่นายหลุยส์ อัลมาโกร เลขาธิการโอเอเอสซึ่งเป็นชาวอุรุกวัย นำเสนอรายงานความยาว 75 หน้าเกี่ยวกับวิกฤติการเมืองในเวเนซุเอลา ที่มีสาระสำคัญกล่าวหารัฐบาลของมาดูโรใช้อำนาจเกินขอบเขตรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างแพร่หลาย และการปฏิเสธจัดการลงประชามติทั้งที่ชาวเวเนซุเอลาสามารถล่ารายชื่อได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎบัตรประชาธิปไตยแห่งทวีปอเมริกา ที่สมาชิกทั้งหมดโอเอเอสลงนามร่วมกัน
ทั้งนี้ กฎของโอเอเอสระบุว่าการระงับสถานภาพสมาชิกของประเทศใด จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกไม่ต่ำกว่า 2 ใน 3 ของที่ประชุม ขณะที่สมาชิกโอเอเอสอย่างน้อย 14 ประเทศ รวมถึง แคนาดา เม็กซิโก โคลอมเบีย และอาร์เจนตินา มองว่าเวเนซุเอลาควรมีการเลือกตั้งใหม่ แต่การขับรัฐบาลการากัสออกจากองค์กรคือ “ทางออกสุดท้าย” และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเจรจาร่วมกันเพื่อ “ฟื้นฟู” ระบอบประชาธิปไตยในเวเนซุเอลา ที่ก่อให้เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างหนัก.
คลิปประกอบ : Ruptly.