“ศุภมาส” ไฟเขียวให้มหาวิทยาลัย – สถาบันวิทยาลัยชุมชนใน 21 จังหวัด จัดการศึกษารวมทั้งจัดฝึกอบรมทักษะตามโครงการฝึกอบรมต่างๆ ทั้งแบบเรียนทางไกลออนไลน์และในสถานที่จริง
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2566 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม,น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจเรื่อง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้กับทหารกองประจำการ ระหว่างกระทรวงกลาโหม (กห.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยมี พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัด (กห.),นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัด (อว.),ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ รักษาราชการแทนปลัด (ศธ.) และ น.ส.จุลลดา มีจุล ผอ.สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นผู้ร่วมลงนาม
ภายหลังพิธีลงนามฯ น.ส.ศุภมาสฯ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวง (อว.) พร้อมร่วมมือโดยให้มหาวิทยาลัยที่มีอยู่ทั่วประเทศและสถาบันวิทยาลัยชุมชนใน 21 จังหวัด จัดการศึกษาให้แก่ทหารกองประจำการ ทั้งตามหลักสูตรของสถานศึกษาแต่ละแห่งที่สามารถกระทำได้ และการฝึกอบรมทักษะตามโครงการฝึกอบรมต่างๆ ทั้งระยะสั้นและต่อเนื่อง รวมทั้งให้การรับรองและสะสมหน่วยกิต เพื่อนำมารับใบประกาศนียบัตรหรือเทียบวุฒิการศึกษาในระดับต่างๆ ได้
รมว.อว. กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กระทรวง (อว.) ยังพร้อมร่วมกับทุกฝ่ายสร้างระบบการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่ผสมผสานระหว่างการเรียนทางไกลแบบออนไลน์และการเรียนรู้หรือฝึกอบรมในสถานที่จริง เพื่อส่งเสริมการใช้นวัตกรรมการเรียนรู้แบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Training) เพื่อการพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานอาชีพ และเพื่อให้กองประจำการสามารถใช้เทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งเพื่อเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้ และเป็นการเพิ่มและพัฒนาทักษะให้ตนเอง รวมทั้ง ยังจัดให้มีระบบการรับรองคุณวุฒิในสาขา รูปแบบ และระดับต่างๆ และระบบสะสมผลการเรียนที่อาจนำไปสู่การศึกษาต่อเมื่อปลดประจำการอีกด้วย
สำหรับการลงนามในบันทึกความเข้าใจของทั้ง 4 หน่วยงานในครั้งนี้ เกิดจากการที่รัฐบาลได้ตระหนักถึงศักยภาพในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ผ่านระบบทหารกองประจำการ โดยเปิดโอกาสให้ชายไทยที่เสียสละในการเข้ารับราชการที่นอกจากการปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติโดยการเป็นทหารกองประจำการแล้ว ยังสามารถใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาความรู้และทักษะในระหว่างประจำการ เพื่อให้ได้รับการรับรองคุณวุฒิอันจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพและในการสร้างอนาคตให้แก่ตนเองเมื่อพ้นจากกองประจำการ ทำให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติต่อไป