วันที่ 20 ธ.ค.2566 ณ ห้องประชุม สมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ผู้ทรงคุณวุฒิ บก.ข่าว นสพ.,วิทยุโทรทัศน์,ผู้สื่อข่าวออนไลน์ และผู้สื่อข่าวสายอาชญากรรม ได้มีวาระการประชุมพิเศษเพื่อคัดเลือกบุคคลที่เคยเข้ารับรางวัล ผู้ปิดทองหลังพระ 5 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2562-2566 เพื่อคัดเลือกเป็น “สุดยอดผู้รับรางวัลผู้ปิดทองหลังพระ ประจำปี 2566 ปีที่1
โดยมติที่ประชุมร่วมกันพิจารณาอย่างละเอียดจากประวัติ ผลงานที่โดนใจที่สุด ประชาชนยกย่องชื่นชมมากที่สุด เป็นผู้ที่เกิดมาเพื่อให้โดยไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทน เสียสละด้วยใจเพื่อคนอื่นและส่วนรวมอย่างแท้จริง และหลังได้รับรางวัล ผู้ปิดทองหลังพระ ได้ต่อยอดทำความดีอย่างต่อเนื่อง โดยมติคณะกรรมการในที่ประชุมได้ลงมติอย่างท่วมท้น คัดเลือกบุคคลต่อไปนี้ เป็นสุดยอดแห่งปี 2566 ของผู้เข้ารับรางวัล ผู้ปิดทองหลังพระ ประจำปี 2566 ปีที่ 1 ของสมาคมนักข่าวอาชญากรรมแห่งประเทศไทย มีดังนี้
1.”น้อแบม” น.ส.ปณิดา ยศปัญญา อดีตนักศึกษาฝึกงาน ที่ออกมาเปิดโปงทุจริตเงินคนจน คนไร้ที่พึ่งของศูนย์คนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น จนทำให้เกิดการสอบสวนขบวนการทุจริตและพบมีการทุจริตเงินช่วยเหลือคนจน คนไร้ที่พึ่งไปทั่วประเทศ การกระทำของน้องแบมที่คนไทยทั้งชาติชื่นชม ยกย่องในความกล้าหาญได้ออกมาตื่นตัวในการร่วมกันป้องกันการทุจริต
2.”ป่าไม้วิเชียร” นายวิเชียร ชิณวงศ์ อดีต หัวหน้ารักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นผู้จับกุมนายทุนใหญ่ที่เข้าไปล่าเสือดำจนเป็นข่าวโด่งดัง และต่อมาศาลสั่งจำคุกผู้กระทำผิดทั้งหมด
3.“ครูเสือ” ส.ต.สมิง บุญทด หรือ ครูเสือ เปิดค่ายมวย สอนวิชาการป้องกันตัวให้เยาวชนเป็นความรู้ติดตัว ไปประกอบอาชีพ ในอนาคต ซึ่งมีเด็กกำพร้าที่สุ่มเสี่ยงจะเดินทางผิด ท่านก็รับมาอุปการะ เลี้ยงดู รักเหมือนลูกของตัวเอง เมื่อถึงงานวันเด็กก็ไปแจกของเล่นให้เด็ก และมอบสิ่งของให้เด็กในถิ่นทุรกันดาร อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประสานงานความช่วยเหลือชาวบ้านในช่วงน้ำท่วม ช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง ผู้ชรา ผู้พิการ อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
4.“ลิเก” ช่วยคนจนตัวตาย นายศราวุธ พงษ์สวัสดิ์ อายุ 34 ปี อาชีพเป็นลิเก เอกชัย ราชัน จอดรถช่วยกระบะจอดเสียบนทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนี สุดท้ายโดนกระบะขาวชนท้ายรถจอดเสียทำให้นายศราวุธฯ ตกลงไปข้างล่างดับเสียชีวิต เหตุเกิด 5 สิงหาคม 2563 การเสียสละช่วยเหลือคนอื่นจนตัวเองเสียชีวิตเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
5.“พี่เเจ๋ม” นางวิภาดี วรรณชัย แม่พระของแรงงานไทย หรือ วีรสตรีของแรงงานไทยในอิสราเอล พี่แจ๋ม ที่คอยประสานงานช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอลให้พ้นจากอันตราย ในขณะที่กลุ่มฮามาสบุกเข้ามายิงแรงงานไทยตามแคมป์ต่างๆ โดยขับรถฝ่าดงระเบิดกระสุนปืนช่วยเหลือแรงงานไทย โดยไม่คิดชีวิตตนเอง เป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่
6.“หน่วยซีล” ช่วยชีวิต 2 แม่ลูกพ้นความตายเส้นยาแดงผ่าแปด คือ พันจ่าตรี อนุชิต พรมดอนกลอย นายทหารสังกัดหน่วยซีล กองทัพเรือ ที่กระโดดน้ำช่วยชีวิตสองแม่ลูก หลังจากขับรถเสียหลักตกคลองข้างทาง บริเวณสะพานบ้านคำแก้ว ต.คำแก้ว อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ
7.“เขาทราย แกแลคซี” นายสุระ แสนคำ เป็นประธานชมรมวีระบุรุษแชมป์โลกไทย เป็นต้นแบบแห่งนักกีฬาไทยที่ทำแต่ความดี เป็นผู้ให้ และสนับสนุน มอบทุนให้บรรดาอดีตแชมป์โลกในชมรมฯ อีกทั้งเขาทราย ยังนำข้าวกล่อง-น้ำดื่ม สมทบกับผู้มีจิตศรัทธาทั่วไป นำไปมอบเป็นขวัญกำลังใจให้กับ แพทย์ เจ้าหน้าที่ พยาบาลโรงพยาบาลสนาม ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ ทำดี เสียสละอย่างต่อเนื่อง
8.“ผู้เกิดมาเพื่อให้” หรือนักธุระกิจทำธุระกิจแบบคืนกำไรให้สังคม ดร.ปัญจรัตน์ มังกรกนก หรือ “ดร.บุ๋ม” ผู้พิพากษาสมทบ ศาลทรัพย์สินทางปัญญา ผู้มีแต่ให้และช่วยเหลือคนยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ เสียสละเพื่อสังคมต่อเนื่อง และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนให้ทีมฟุตซอลทีมชาติไทยสู่ความสำเร็จ และกีฬาอื่นๆอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องการสิ่งใดๆตอบแทน เพียงเพื่อสร้างความสุขให้คนไทยทั่งชาติ และนำชื่อเสียงของประเทศไทยออกไปสู่สายตาชาวโลก
9.นายกฤษณะ นุชสุวรรณ หรือ ตี๋ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองลัดหลวง จ.สมุทรปราการ ผู้เสียสละเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น โดยเข้าไปช่วยชีวิตคนงานขณะเกิดเพลิงไหม้บริษัทหมิงตี้ เคมีคอล ซ.กิ่งแก้ว 21 จนตัวเองบาดเจ็บไฟคลอกสาหัส ใบหน้าเสียโฉม ร่างการเต็มไปด้วยรอยไหม้เกือบ 50% ตี๋ คือผู้เสียสละตัวเองเพื่อคนอื่นอย่างแท้จริง และสังคมไทยต้องจดจำในความดีของเขาที่ทำ