เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง ย้ำไม่ได้เป็นหนี้ เพียงแต่ขาดงบดำเนินการ เผยมีเงินสำรองเหลือ 11 ล้านบาท ใช้ได้อีกแค่ 1 ปี (มีคลิป)
เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากนางสาวโซไรดา ซาลวาลา ผู้ก่อตั้ง กรรมการ เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ได้ทำหนังสือถึงประธาน และคณะกรรมการมลูนิธิฯ โดยเสนอยุติมูลนิธิเพื่อนช้างตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
นางสาวโซไรดา เปิดเผยว่า การทำงานของมูลนิธิเพื่อนช้างฯ นั้นมีปัญหามาโดยตลอดตั้งแต่ก่อตั้งมาเงินบริจาคเข้ามามากบ้างน้อยบ้าง24 ปีที่ผ่านมาเราขาดงบดุลย์ ตั้ง11ปี สื่อบางสื่อเข้าใจคาดเคลื่อนว่ามูลนิธิฯเราเป็นหนี้20ล้าน แต่ที่จริงแล้วเราไม่ได้เป็นหนี้ แต่เราเอาเงินสำรองที่ฝากประจำออกมาใช้ เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่ายเวลาเราติดลบ
ขณะนี้เงินสำรองที่เคยมีจำนวนสูงขณะนี้เหลือแค่ 3ส่วนคือ1.เงินทุนจดทะเบียนซึ่งไม่สามารถนำมาใช้ได้ใช้ได้แต่ดอกผล 2.เงินบริจาคของพังโม่ตาลา ที่เก็บไว้มีอยู่ประมาณ4ล้าน 3.เงินกองทุนนมลูกช้างซึ่งนางแบบต่างประเทศท่านหนึ่งบริจาคให้จำนวน3,700,000บาทเศษ ซึ่งรวมแล้วทั้งเงินฝากประจำ ดอกผลและเงินส่วนอื่นๆ ขณะนี้มีประมาณ11ล้านเศษ ซึ่งเงินสดที่มีอยู่ในมือขณะนี้จะนำมาใช้จ่ายในมูลนิธิฯได้อีกเพียง3เดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายตกเดือนละประมาณ 8แสนถึง1ล้านบาทแล้วแต่กรณี
นางสาวโซไรดา กล่าวว่า หากเราเอาเงินฉุกเฉินทั้งเงินพังโม่ตาลา เงินกองทุนนมช้างออกมาใช้อีก12เดือนเงินก็ไม่มีแล้ว ซึ่งไม่อยากจะยุ่งกับเงินส่วนนี้เลย เพราะว่าหากมีลูกช้างไม่มีแม่ ไม่มีนมกินเราก็จะเอาเงินส่วนนี้มาจัดสรรซื้อนมให้ลูกช้างกิน ถือว่าเป็นปัญหาหนักสุดที่ตั้งองค์กรมา และดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่ามูลนิธิฯเราไม่ได้เป็นหนี้ แต่เราเอาเงินที่สะสมฝากประจำมาใช้เท่านั้น
ล่าสุด หลังจากออกมาเสนอให้กับทางประธานและกรรมการมูลนิธิฯ ก็มีข้อความผ่านทางเฟซบุ๊คเพื่อให้กำลังใจกับ สัตว์ และเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯจำนวนมาก โดยมีประชาชนที่เข้ามาบอกว่าขอต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นที่ต้องปิดตัวลง ชาวช้างรวมถึงเจ้าของกิจการที่ส่งช้างมารักษากับมลูนิธิเราให้กำลังใจและตัดพ้อว่าเราจะไปพึ่งใครหากช้างเราป่วยและจะมาวิธีช่วยให้มูลนิธิฯดำเนินการต่อไปได้ ซึ่งดิฉันขอกราบขอบคุณสื่อมวลชล และประชาชนมา ณที่นี้ด้วย
นางสาวโซไรดา ย้ำอีกว่า บทบาทตั้งแต่นี้เป็นต้นไปทางประธานมูนิธิได้เรียกประชุมแล้ว ซึ่งในหนังสือได้แสดงอย่างชัดเจนซึ่งข้อความในหนังสือ แต่บางท่านยังไม่อ่านให้จบว่าหากยังมีหนทาง
ก็จะขอทางคณะกรรมการชี้แนะว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป หากไม่มีหนทางเราจะได้แจ้งให้ประชาชนทราบต่อไปว่าเราถึงทางตันแล้วและจะดำเนินการตามระเบียบต่อไประเบียบก็คือหากไม่สามารถดำเนินการตามข้อบังคับได้ทรัพย์สินเงินสดก็จะมอบให้กับมูลนิธิพิทักษ์อุทยานเขาใหญ่ต่อไป