ระทึกกลางดึก…รองผู้ว่าฯลพบุรี ลงพื้นที่บัญชาการเหตุการณ์ไฟไหม้ปั๊มน้ำปตท.ท่าศาลา หลังรถบรรทุกพ่วงผงปูน 22 ล้อ เสียหลักชนเสาไฟฟ้าริมทางขาดก่อนพุ่งเข้าปั๊มน้ำมันชนหัวจ่ายน้ำมันไฟลุกท่วม ระดมรถน้ำดับเพลิงกว่า 10 คัน สกัดดับไฟเอาไว้ได้กว่า 1 ชั่วโมง โชคดีที่ไม่มีคนบาดเจ็บ และเสียชีวิต สาเหตุคนขับเมาเหล้าจนหลับใน
ศูนย์ข่าวภาคกลาง หนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ รายงานข่าวว่า
เมื่อเวลา 01.30 นาฬิกา วันที่ 16 ธันวาคม 2566 นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลพบุรี ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และบัญชาการเหตุการณ์ไฟไหม้ปั๊มน้ำ ปตท.ท่าศาลา ริมถนนพหลโยธิน ขาขึ้นทางหลวงหมายเลข 1 ช่วงหลักกิโลเมตร 151 – 152 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าศาลา อำเภอเมืองลพบุรี กำลังมีไฟลุกไหม้อยู่ภายในปั๊ม โดยเทศบาลตำบลท่าศาลานำรถน้ำดับเพลิงและหน่วยงานข้างเคียงกล่า 10 คัน ช่วยกันระดมฉีดน้ำ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูร่วมกันระงับเหตุ ได้ขอสนับสนุนน้ำยาโฟมจากโรงงานเอกชนมาฉีด เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด ไม่ลุกลามใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ในเบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
จุดเกิดเหตุภายในปั๊มที่หัวจ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์หัวแรกอยู่ด้านหน้าปั๊มพบมีรถบรรทุกพ่วงผงปูนขนาด 22 ล้อ หมายเลขทะเบียนพ่วง 70-2954 นครสวรรค์ ไม่ทราบยี่ห้อ หัวรถชนคาอยู่กับหัวจ่ายน้ำมันทำให้เกิดไฟลุกไหม้ทั้งหัวรถบรรทุกและหัวจ่ายน้ำมันโหมขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ประกายไฟลุกลามขึ้นไปบนหลังคาที่มีสายไฟฟ้าเดินอยู่จำนวนหลายเส้นจนลุกลามไปถึงร้านสะดวกซื้อ ทำให้พนักงานประจำหัวจ่ายที่มีอยู่ 3 คน และประชาชนที่มาใช้บริการต้องวิ่งหนีตายไปด้านหลังของปั๊มเพื่อความปลอดภัย เพราะไฟไหม้หัวจ่ายกลัวปั๊มระเบิด เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์การปกครองท้องถิ่นจากหลายพื้นที่ พร้อมรถน้ำเข้าช่วยกันระดมฉีดน้ำสกัดไฟไปที่หัวจ่ายน้ำมัน และรถบรรทุกทันที เพื่อไม่ให้ไฟได้ลุกลามลงไปยังถังเก็บน้ำมันใต้ดินที่มีเป็นหมื่นลิตรอยู่ห่างกันเพียงประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
ขณะเดียวกันหลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบถายในรถบรรทุกพ่วงไม่พบว่ามีคนติดอยู่ในรถแต่อย่างใด แต่พบคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าวยังยืนดูเหตุการณ์อยู่ในที่เกิดเหตุทราบชื่อนายมาโนช แตงเจริญ อายุ 44 ปี ชางจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งอยู่ในอาการคล้ายคนเมาค้างพูดออกมายังมีกลิ่นสุราหึ่ง ให้การว่า ตนเองขับรถส่งผงปูนทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่จังหวัดลำปาง ไปส่งที่กรุงเทพฯ ล่าสุดกำลังนำปูนจากจังหวัดสระบุรี เพื่อไปส่งจังหวัดตาก โดยจะใช้เส้นทางถนนเลี่ยงเมืองลพบุรี แต่ยังไม่รู้ว่าตนขับเข้ามาเส้นนี้ได้อย่างไร ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ตนได้ดื่มเหล้ามา พอขับมาถึงบริเวณดังกล่าวตนเกิดหลับในจนรถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าหน้าปั๊ม ก่อนเข้าพุ่งชนหัวจ่ายในปั๊มไฟลุกไหม้หนีตายออกมาจากรถได้ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปตรวจร่างกายและตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดเก็บไว้เป็นหลักฐาน พบมีปริมาณ 171 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ก่อนนำตัวไปควบคุมตัวที่ สภ.เมืองลพบุรี เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้านนายอนุสรณ์ สุ่มเสน่ห์ อายุ 34 ปี ไลน์แมน เล่านาทีระทึกให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ขณะที่ตนเองกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์กำลังนำออร์เดอร์ไปส่งลูกค้าในตัวเมือง ขับมาก่อนถึงปั๊มที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เห็นรถปูนคันดังกล่าวขับขึ้นแซงหน้าตนมาด้วยความเร็วมากเบียดรถตนเองจนเกือบชนซึ่งยังตกใจไม่หาย จากนั้นเห็นรถบรรทุกคันดังกล่าวเบี่ยงเข้าทางซ้ายชนเสาไฟฟ้าก่อนพุ่งเข้าปั๊มน้ำมัน ตนเองตอนนั้นได้ขับเลยปั๊มไปจึงตัดสินใจเลี้ยวรถย้อนกลับมาดูเห็นการณ์เผื่อจะสามารถช่วยเหลือคนเจ็บได้แต่ปรากฏว่าไม่พบมีใครบาดเจ็บ ส่วนคนขับรถบรรทุกก็ลงจากรถมาดู ซึ่งขณะนั้นมีประกายไฟอยู่ที่หัวจ่ายน้ำมัน ทางพนักงานและลูกค้ายังช่วยกันน้ำถังฉีดดับเพลิงมาช่วยกันฉีดแต่ไม่สามารถดับได้ ทำให้ไฟลุกขึ้นลุกลามแรงขึ้นจนทำให้ทุกคนที่อยู่ในปั๊มต่างพากันหลบไปอยู่ด้านหลังเอาตัวรอด เพราะเกรงว่าอาจเกิดการระเบิดขึ้นได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดกั้นห้ามผู้เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรอทางพิสูจน์หลักฐานลพบุรี มาตรวจสอบเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งส่วนค่าเสียหายกว่าร้อยล้าน
(ขอบคุณภาพจาก มูลนิธิร่วมกตัญญู จังหวัดลพบุรี)
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการ ศูนย์ข่าวภาคกลางหนังสือพิมพ์ 5 เหล่าทัพ