ศุลกากรแถลงจับนอแรด มูลค่ากว่า170ล้าน พบตำรวจ-จนท.ระดับสูงกระทรวงยุติธรรมเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นขบวนการกับสองสาว
ที่สำนักงานศุลกากรตรวจของ ผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ. สมุทรปราการ นายไพศาล ชื่นจิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายบุญเทียม โชควิวัฒน ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรี วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดนอแรดลักลอบนำเข้าจากสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย จำนวน 21 นอ น้ำหนักรวม 49.4 กิโลกรัม มูลค่า 173 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560
ทั้งนี้พบว่า มีข้าราชการระดับสูงของกระทรวงยุติธรรม พร้อมตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ2นาย ออกมาขออำนวยความสะดวกพา 2 สาวสมาชิกแก๊งค้าซากสัตว์ ที่เดินทางมารับกระเป๋าของกลาง แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพบพิรุธ จึงขอตรวจสอบกระเป๋าใบดังกล่าว พบว่ามีนอแรดจำนวนมากซุกซ่อนอยู่ จึงได้ทำการตรวจยึดเอาไว้ ส่วนสองสาวที่เดินทางมารับกระเป๋ากับอาศัยจังหวะช่วงชุลมุนหลบหนีไป
นายไพศาล ชื่นจิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร เปิดเผยว่า ในคดีนี้เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 10 มีนาคม 2560 เจ้าหน้าที่ศุลกากร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2บก.ปทส. ได้ร่วมกันตรวจยึดกระเป๋าเดินทางทรงแข็ง มีล้อลาก สีเทา ยี่ห้อAMERICAN TOURISTER ขนาด 70 x 48 ซม. สภาพเก่าใช้แล้ว จำนวน 1 ใบ ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสรอบตัวกระเป๋าอีกชั้นหนึ่ง โดยมีบัตรผูกติดกระเป๋า (TAG)หมายเลขET 88 52 77 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ET628ต้นทางจากกรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เนื่องจากมีน้ำหนักมากผิดปกติ โดยมีนายตำรวจยศ ร้อยตำรวจเอก ของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณ จำนวน 2 นาย และ เจ้าหน้าที่ระดับสูงสังกัดกระทรวงยุติธรรม ประจำจังหวัดสระบุรี อีกหนึ่งท่าน เดินประกบกระเป๋าดังกล่าวมา และมีหญิงสาวเดินตามมาด้วยสองคน เจ้าหน้าที่จึงขอทำการเอกซ์เรย์กระเป๋า
จากการตรวจสอบพบภายในบรรจุวัตถุต้องสงสัยคาดว่าจะเป็นนอแรดจำนวนมาก จึงเปิดกระเป๋าดังกล่าวตรวจสอบ และพบว่าภายในบรรจุนอแรดขนาดต่างๆจำนวน 21 หน่อ นำหนักรวม 49.4 กก. คิดเป็นเงิน 148.2 ล้านบาท จึงทำการตรวจยึดและเมื่อตรวจสอบเจ้าของกระเป๋าสัมภาระพบว่าอาศัยช่วงจังหวะที่เจ้าหน้าที่ทำการเอ็กซ์เรย์กระเป๋า หลบหนีออกจากอาคารผู้โดยสารไป ทราบชื่อภายหลังนางฐิติรัตน์ อายุ46ปี ชาวกรุงเทพมหานคร ที่เดินทางกลับจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ด้วยเที่ยวบินTG 581 และนางกานต์สินี อายุ41ปี ชาวอ.สามพราน จ.นครปฐม ที่เดินทางกลับจากกรุงโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม ด้วยเที่ยวบินVZ 971
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ที่350/2560 ลงวันที่11มีนาคม 2560ไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวหญิงต้องสงสัยทั้งสอง และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ยังได้พบว่ากระเป๋าใบดังกล่าว มาจากเอธิโอเปีย และเดินทางมาถึงก่อนหน้าแล้ว1วันก่อนที่หญิงทั้งสองจะมาแสดงตัวรับกระเป๋าดังกล่าว โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรยึดของกลางเอาไว้ได้
ด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า สำหรับตำรวจของ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ ที่เข้าไปเกี่ยวข้องในคดีนี้นั้น หลังเกิดรับทราบ ได้นำตัวตำรวจทั้ง2นายมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว เบื้องต้นตำรวจทั้งสองนาย ได้ให้การว่า ไม่รู้เห็นกับการกระทำผิด โดยบอกเพียงว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงสังกัดกระทรวงยุติธรรม ที่มาในจุดเกิดเหตุด้วยได้มาติดต่อขอให้อำนวยความสะดวกให้เท่านั้น จำทำตามหน้าที่ ขณะเจ้าหน้าที่ระดับสูงสังกัดกระทรวงยุติธรรม ยังคงให้การปฏิเสธ พร้อมอ้างว่ามารับเพื่อนที่เดินทางมาจากต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งจากคำให้การเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังไม่ปักใจเชื่อ โดยได้รวบรวมหลักฐาน ทั้งจากกล้องวงจรปิด และเส้นทางการลำเลียงนอแรด มูลค่ามหาศาลครั้งนี้ เพื่อสอบสวนขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรายใด เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการในครั้งนี้หรือไม่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดของกลางส่งกรมอุทยานตรวจสัตว์ป่าและพืชแล้ว ส่วนผู้ต้องหาหญิงทั้งสองที่หลบหนี คาดว่าเป็นสมาชิกของแก๊งค้าซากสัตว์ป่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมิติหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีแล้ว ซึ่งการกระทำดังกล่าวมีความผิดข้อหา นำหรือพาของที่ยังไม่ได้เสียภาษี หรือของต้องห้ามต้องกำกัด ฯ ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2482ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ และ พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์