แกนนำกลุ่มแบ่งแยดดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครนยืนยัน พบกล่องดำของเที่ยวบิน เอ็มเอช 17
ที่ตกเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้ว และเตรียมจะส่งมอบให้องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ…
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อเล็กซานเดอร์ โบโรดาอี แกนนำกลุ่มแบ่งแยกดินแดน และเป็น
นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ ซึ่งประกาศแยกตัวจากยูเครนแต่เพียงฝ่ายเดียวเมื่อพ.ค.
ออกมายืนยันเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ว่า นักรบของเขาพบอุปกรณ์บันทึกข้อมูลการบิน หรือกล่องดำ ของเครื่องบิน
โบอิ้ง 777 เที่ยวบิน เอ็มเอช 17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์สจริง และวางแผนจะส่งมอบกล่องดำนี้แก่
องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอซีเอโอ)
เที่ยวบินเอ็มเอช 17 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส เดินทางจากกรุงอัมสเตอร์ดัมมุ่งหน้าสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์
ก่อนตกในพื้นที่ที่ฝ่ายกบฏแบ่งแยกดินแดนควบคุมใกล้เมืองโตเรซ ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันที่
17 ก.ค. โดยเชื่อว่าเครื่องบินถูกยิงด้วยมิสไซล์ภาคพื้นสู่อากาศจนตก ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือรวม
298 คนเสียชีวิตทั้งหมด ขณะที่รัฐบาลยูเครนและกบฏต่างกล่าวโทษอีกฝ่ายว่าเป็นผู้ต้องรับผิดชอบ
ต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้
รัฐบาลยูเครนยังกล่าวหาฝ่ายกบฏว่า ไม่ยอมส่งมอบกล่องดำให้แก่เจ้าหน้าที่ และเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิต
ไปยังมัสยิดในเมืองโดเนตสก์ด้วย ขณะที่นายโบโรดาอีเผยต่อผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ว่า พวกเขายังไม่พบ
กล่องดำและไม่ได้ยุ่งกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ในวันอาทิตย์นักรบกลุ่มกบฏคนหนึ่ง
ทวีตข้อความลงบนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ว่า กล่องดำของเอ็มเอช 17 ถูกนำไปยังเมืองโดเนตสก์แล้ว
ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงายว่า ในวันอาทิตย์ศพผู้เสียชีวิตจำนวนมากถูกขนย้ายออกไปจากจุดที่
เอ็มเอช 17 ตก และนักรบกลุ่มกบฏก็ออกไปจากพื้นที่ ส่วนสำนักข่าวเอพีรายงานอ้างคำพูดของโฆษกหญิง
ของสำนักงานฉุกเฉินยูเครนว่า กลุ่มกบฏบังคับให้เจ้าหน้าที่ส่งมอบศพผู้เสียชีวิตจำนวน 196 ศพที่พบในพื้นที่
จุดตก และนำศพทั้งหมดออกจากพื้นที่ไปโดยไม่บอกว่านำไปที่ใด
นายโบโรดาอี ตอบในเรื่องนี้เมื่อวันอาทิตย์ว่า ศพดังกล่าวจะถูกนำไปไว้ในตู้สินค้าแช่เย็นที่สถานีรถไฟ
ในเมืองโตเรซ ซึ่งห่างจากจุดตกราว 15 กม. จนกว่าผู้แทนองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศจะเดิน
ทางมาถึงและมีรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ขององค์การสนับสนุนความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป
(โอเอสซีอี)เดินทางเข้าตรวจสอบตู้สินค้าแช่เย็นดังกล่าวแล้ว