วันที่ 2 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรรักษ์ มาลัยทอง แกนนำคนเสื้อแดงปทุมธานี ได้โพสคลิปผ่านช่องทางยูทูป เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ชื่อ “นายศรรัก ทองชัย” ได้กล่าวว่า ช่วงนี้จะมีความเคลื่อนไหวในเรื่องเตรียมการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดในหลายจังหวัด โดยเฉพาะที่จังหวัดปทุมธานีก็มีความเคลื่อนไหว ฝั่งที่เป็นนักการเมืองที่ ส.ส.แล้วหวังผิดหวังสอบตก พยายามเคลื่อนไหว ผมมองอย่างนี้นะในส่วนตัวผม จริงๆแล้วพรรคเพื่อไทยไม่ได้แพ้ก้าวไกล หากพูดกันตรงไปตรงมาแล้ว ในกรณีที่แพ้การเลือกตั้ง คือจังหวัดปทุมธานีมี 7 เขต และ ส.ส.พรรคเพื่อไทยได้ 1 เขต อีก 6 เขตแพ้เพราะว่าคณะจัดตัวผู้สมัครในจังหวัดและคณะภาค ไปสรรหาตัวผู้สมัครโดยที่ประชาชนคนส่วนที่จะทำให้ชนะ เขาเห็นแย้ง ปรามาสเสียงประชาชน เมื่อเขาเลือกมา ยังไงประชาชนต้องเอาตาม อาศัยว่าเป็นแบรนด์ของพรรคเพื่อไทย แน่นอนที่สุดครับคนจังหวัดปทุมธานีก็ยังปักหลัก และก็ยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทย และยังเชื่อมั่นในการบริหารประเทศในการแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ เพราะว่าสมัยไทยรักไทย ท่านนายกทักษิณได้ทำให้กับพี่น้องประชาชนจับต้องได้แบบเป็นรูปธรรมและประสบความสำเร็จ
ฉะนั้นประชาชนเสียงส่วนใหญ่เขาก็เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทย จะแก้ปัญหาในด้านเศรษฐกิจให้ประชาชนกลับมาอยู่ดีกินดีได้ แต่ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมา 7 เขตพรรคเพื่อไทยได้เพียงแค่ 1 เขต อีก 6 เขต ดูเหมือนว่าพ่ายแพ้ จริงๆ พรรคไทยไม่ได้แพ้ แต่แพ้เพราะตัวบุคคลอันนี้เป็นความจริง ก็เช่นเดียวกันกับการเตรียมการการเลือกตั้งนายก อบจ. อันนี้ผมพูดตรงไปตรงมา ท่านพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง เป็นนายกอบจ.คนปัจจุบัน เป็นมาได้ 3 ปีกว่า จะเข้าปีที่ 4 เจอปัญหามากมายก็คือเรื่องของโควิท-19 งบประมาณก็ไม่ลื่นไหล เพราะว่าเป็นนายกสายเสื้อแดง สายฝ่ายประชาธิปไตย สายพรรคเพื่อไทยนั่นแหละ อันนี้พูดตรงๆ เพราะว่าท่านพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ก็คือน้องรักของท่านนายกทักษิณ ชินวัตร คนเดียวในประเทศไทย ที่กล้ามีวันนี้เพราะพี่ให้ใช้วลีนี้ มีวลีผมจะรักและจะตอบแทนบุญคุณผู้ที่มีพระคุณกับผม มันไม่เห็นผิดตรงไหน ก็คือออกท่านพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง
หากเปรียบเทียบกับพี่ชาญ เป็นอดีตนายก อบจ. เคยดำรงตำแหน่งนายกอบจ.มามากกว่าพลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ก็คือเป็นถึง 12 ปี 3 สมัย แต่ในขณะเดียวกันที่พี่ชาญเป็นผู้บริหารระดับอบจ. ต้องบอกนายกอบจ. คือนักพัฒนา เมื่อพี่ชาญแพ้พลตำรวจโทคำรณวิทย์ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แล้วครั้งนี้เนี่ยจะมีอดีต ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ตามข่าวนะ ที่เขียนบอกว่าบ้านนู้นบ้านนี้ไปหนุนพี่ชาญ อันนี้ผมพูดด้วยความเคารพ ทั้งที่ชาญ และก็นายกคนปัจจุบัน และ ส.ส. ผมก็รู้จักทั้งหมด คือสินค้าที่มันเป็นสินค้าที่เหมือนยาหมดอายุ ประชาชนเขาไม่ผู้บริโภคแล้ว จะมี อดีต ส.ส.หรือว่าจะเป็น ส.ส.ปัจจุบันสนับสนุน ผมก็มองว่ายากยิ่งนักที่จะเอาไปยัดเยียดให้กับประชาชน
เข้ากับท่านกำลังจะมองข้ามประชาชนจะดูถูกประชาชน เราจะมาตีโพยตีพายว่าถ้าแพ้อีก ไหนละกองเชียร์พรรคเพื่อไทย ท่านไม่ฟังเสียงประชาชนต่างหาก คนที่จะสนับสนุนผู้ที่จะลงสมัครเป็นนายก อบจ.และใช้แบนพรรคเพื่อไทย คุณต้องฟังประชาชน บทเรียนการเลือกตั้ง ส.ส. มันมีแล้ว โดยเฉพาะในจังหวัดคุณต้องเอาคนทุกกลุ่ม ทุกพวก เพราะว่ามันเป็นท้องถิ่น การบริหารจังหวัด คุณต้องเอาทั้งต้องเอามารวมกันให้หมดให้ได้ แต่ระดับชาติมันแบ่งกันเล่น แบ่งพวกเล่น ก็ว่าไปตามนั้น แต่ในที่สุดแม้เป็นรัฐบาลผสมเป็นพรรคร่วม จะว่าใครไม่ได้อยู่แล้ว อันนี้เราพูดตรงไปตรงมา
สรุปสุดท้ายความเป็นจริง มันก็คือความเป็นจริง ท้องถิ่นระดับจังหวัด คุณก็ต้องเอาคนในจังหวัดและคุณต้องสร้างคุณประโยชน์ให้คนทั้งจังหวัดได้รับทราบและเป็นบวกด้วย จะทำให้คนทั้งจังหวัดยอมรับคุณคุณต้องไปสร้างแพทเทิร์นในสิ่งที่ประชาชนทุกกลุ่มทุกรุ่นยอมรับคุณได้ แต่ถ้าคุณไม่ได้สร้างตรงนี้ แล้วคุณจะมาใช้แบรนด์ไปบีบเขา พอแพ้ขึ้นมาคุณประชาชน อันนี้ถือว่าเฮงซวยมาก ๆ เมื่อประชาชนเขาติงแล้วว่าเฮ้ย สินค้าตัวนี้มันไม่สมควรออก เมื่อออกไปประชาชนก็ไม่บริโภค คุณก็ยังดันทุรัง เพราะความอยากที่จะเอาชนะ
อันดับแรก คนที่จะมาสมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานีคนในจังหวัดนั้นๆ เขาต้องยอมรับประวัติส่วนตนหรือว่าการทำงานส่วนตน เสียงส่วนใหญ่ต้องยอมรับ มันจึงจะมีผลว่าโอกาสชนะมันมี แต่ถ้าไม่ได้มีตรงนี้ ต่อให้โคตรพ่อโคตรแม่มันดันขนาดไหนมันก็ไม่ผ่านหรอก อันนี้ผมพูดตรงไปตรงมานะ แล้วไม่ต้องมาโกรธผมนะ ผมไม่สนใจอยู่แล้ว พวกคุณสร้างความแตกแยก เอานามสกุลนี้มาพูด เอาบ้านใหญ่มาพูด ใครเคยไปเลี้ยงอะไรคนปทุมธานีทั้งจังหวัดบ้าง ผมถามหน่อย แต่คุณบอกคุณบ้านใหญ่ บ้านใหญ่ตอนเลือกตั้ง ส.ส. คุณได้กี่คะแนน อย่าเพิ่งเอาอคติ อย่างสมมุติว่า ผมจะลงหรือว่าใครจะลง คนๆนั้น ต้องมีคุณสมบัติ คนมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เขาเห็นดีเห็นงามเห็นชอบ ว่าจะเลือกคุณ เข้าไปเป็นผู้นำจังหวัดนั้นๆก่อน คือคะแนนส่วนตัว เอาคนอื่นมาช่วยอุ้ม จะพากันลงเหว ไปคิดกันใหม่ วันนี้มันควรจะจับมือกัน แล้วมาอะไรที่ผิดพลาด อะไรที่มันมีข้อพิพาทบาดหมางกันไป แล้วก็มานั่งคุยกัน นำพาจะทำยังไง เอาให้ถึงเป้าหมาย ทำให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสันติสุข อันนี้กลายเป็นว่าพวกคุณแบ่ง แล้วคุณจะมาโทษประชาชน แล้วจะมาว่าประชาชนแทน พวกคุณไม่มองตัวคุณเองก่อน อันนี้ผมพูดตรงไปตรงมานะอย่ามาโกรธกัน แล้วก็อย่ามาอะไรกัน ทำให้ประชาชนแตกแยก จริงๆแล้ว ถ้าประชาชนเขาจะเลือกคุณไม่ต้องไปเอาใครมาการันตี อย่างไรเขาก็เลือก เพราะว่าเขาชื่นชมและชื่นชอบในสิ่งที่คุณได้สร้างคุณงามความดี หรือว่าสิ่งที่คุณได้ได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม.
ภาพ/ข่าว สมาคมนักข่าวปทุมธานี