จานนี่ อินฟานติโน่ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เปิดเผยผ่านสื่อว่า การลงนามคำสั่งพิเศษห้ามพลเมือง 6 ประเทศ ที่นับถือศาสนาอิสลาม เดินทางเข้า สหรัฐอเมริกา ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน อาจส่งผลกระทบต่อการยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ เวิลด์ คัพ ปี 2026
สหรัฐฯ เป็นเต็งหนึ่งที่จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก อีก 9 ปีข้างหน้า ท่ามกลางผู้ท้าชิงอย่าง เม็กซิโก และ แคนาดา ทว่าการลงนามของ ทรัมป์ ที่สั่งห้ามชาวมุสลิมเข้าประเทศ ทำให้ อินฟานติโน่ แสดงความเห็นว่า เขาอาจต้องพิจารณาเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง เพราะเมื่อการแข่งขันของ ฟีฟ่า มาถึง ไม่ว่าจะเป็นทีมงาน นักกีฬา หรือแม้แต่ กองเชียร์ จากชาติใดก็ตาม ที่ผ่านเข้ามาเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ก็ต้องทำเรื่องขอเข้าประเทศนั้นๆ เพราะไม่อย่างนั้นก็ไม่อาจบอกได้ว่า มันคือ เวิลด์ คัพ
นอกจากนี้ การลงนามของ ทรัมป์ ยังมีผลต่อการแข่งขันกีฬารายการอื่นๆอีกด้วย โดยเฉพาะกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ โอลิมปิก 2024 และ พาราลิมปิก เกมส์ ที่ลอส แองลิส กำลังเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ เพราะมันหมายถึงประเทศที่มีนักกีฬาเป็นชาวมุสลิม จะถูกกีดกันไม่ให้มีส่วนร่วมต่อการชิงความเป็นหนึ่งในโลก แน่นอนว่า ทรัมป์ คือประธานาธิบดีของ สหรัฐฯ และเราต้องให้เกียรติในสิ่งที่เขาทำ เขาเป็นคนดูแลเรื่องนี้ การตัดสินใจที่เกิดขึ้นนั้นย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสหรับประเทศของเขา นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมจึงได้รับเลือกตั้ง ในโลกนี้มีหลายประเทศที่ถูกแบนห้ามเข้า ไม่ว่าจะเดินทางมาเที่ยว แบนวีซ่า หรือเรื่องต่างๆ ซึ่งเวลานี้เรากำลังอยู่ในระหว่างการเจรจา เพื่อหาข้อสรุป ทุกอย่างต้องชัดเจน และพวกเขามีสิทธิ์เลือกว่าต้องการอะไรและไม่ต้องการอะไร นั่นคือกฏเกณฑ์ที่ทุกคนรับรู้