เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ติดตามความก้าวหน้าวิจัยเข็มมุ่งด้านการจัดการน้ำ โดยคณะกรรมการกำกับงานวิจัย (วช.) กลุ่มงานที่ 3 เรื่อง “การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมการเพิ่มน้ำต้นทุนของเขื่อนหลักเพื่อการพัฒนาลุ่มน้ำเจ้าพระยา” แผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมายด้านสังคม แผนงานการบริหารจัดการน้ำ ระยะที่ 3 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ประธานแผนงานยุทธศาสตร์เป้าหมายด้านสังคม แผนงานการบริหารจัดการน้ำ ระยะที่ 3 กล่าววัตถุประสงค์ของแผนงานวิจัยฯ พร้อมแนะนำคณะกรรมการกำกับงานวิจัย (วช.) หน่วยงานใช้ประโยชน์และคณะนักวิจัย ดร.ธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทาน กล่าวต้อนรับ และมี รศ.ดร เจษฏา แก้วกัลยา,ดร.สมชาย ใบม่วง ผู้ทรงคุณวุฒิ (วช.),คุณสมชาย หวังวัฒนาพาณิช ประธานสถาบันน้ำและสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,รศ.ดร.สุดสวาสดิ์ ดวงศรีไสย์ จาก (สกสว),คุณเพชรินทร อรุณรัตน์ จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ,คุณอุมาพร โควงษ์ จาก (วช.) เข้าร่วมรับฟังการนำเสนอและให้คำแนะนำ ณ ห้องประชุมธารทิพย์ กรมชลประทาน สามเสน กรุงเทพมหานคร
รองศาสตราจารย์ ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ กล่าวว่า เป็นผลงานนวัตกรรมการบริหารเขื่อนที่ฉลาด โดยใช้เทคนิคฝนล่วงหน้า ความต้องการใช้น้ำจากดาวเทียม และ AI ในการคาดการณ์การปล่อยน้ำจากเขื่อนที่เหมาะสม ทำให้รู้ว่าควรจะปล่อยน้ำเมื่อไร เท่าไร ให้ประหยัดน้ำในหน้าฝน และมีน้ำเหลือในหน้าแล้งเพิ่มขึ้นกว่า 15% ส่วนการพยากรณ์ล่วงหน้าปกติ พยากรณ์ 3 วัน แต่ขณะนี้สามารถดูได้ 14 วัน และ 3 เดือน ทำให้รู้แนวโน้มใน 3 เดือนข้างหน้า ผลการทำนายล่วงหน้า 7 วัน ให้ผลที่เป็นน่าพอใจ
นายเลอบุญ อุดมทรัพย์ ผู้อำนวยการส่วนประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ กล่าวว่า ยินดีอย่างยิ่ง ที่ วช. มีงานวิจัยดีๆ เข้ามาสนับสนุนกรมชลประทาน กรมชลประทานได้นำงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในด้านการบริหารจัดการน้ำ เพื่อบริหารจัดการน้ำได้ทุกมิติ โดยใช้เทคโนโลยีทันสมัยและหลักวิชาการได้ถูกต้อง ทำให้การบริหารจัดการน้ำให้กับประชาชนอย่างเป็นธรรมและทั่วถึงเพียงพอ กรมชลประทาน หวังว่า (วช.) จะสนับสนุนนักวิจัย และงานวิจัยดีๆ ต่อไปในอนาคต
การติดตามความก้าวหน้าโครงการวิจัยฯ ในครั้งนี้ ได้มีการนำเสนอโครงการวิจัย จำนวน 2 เรื่อง ดังนี้
1) โครงการวิจัยการพัฒนาระบบการจำลองแบบอัตโนมัติสำหรับคาดการณ์ปริมาณน้ำท่าผิวดินและประเมินความต้องการน้ำชลประทานเพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ไชยาพงษ์ เทพประสิทธิ์ แห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการ กล่าวว่า การพัฒนาระบบการจำลองแบบอัตโนมัติสำหรับคาดการณ์ปริมาณน้ำท่าผิวดินและประเมินความต้องการน้ำชลประทาน ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา มีงานย่อย ดังนี้
1.การประยุกต์ใช้แบบจำลองน้ำฝน–น้ำท่า เพื่อคาดการณ์ปริมาณน้ำท่าที่เกิดขึ้น ณ จุดสถานีควบคุม โดยประยุกต์ใช้แบบจำลองจะเป็นการดำเนินการในรูปแบบอัตโนมัติเพื่อคาดการณ์ปริมาณน้ำท่า จากข้อมูลปริมาณฝนคาดการณ์ล่วงหน้าราย 14 วันของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) สามารถอัพเดตการจำลองผลใน รูปแบบรายวันหรือตามที่ผู้ใช้งานกำหนด ซึ่งข้อมูลปริมาณน้ำท่าดังกล่าวจำเป็นต้องคำนึงถึงข้อมูลปริมาณน้ำท่าตรวจวัด ข้อมูลการบริหารจัดการน้ำ (เช่นข้อมูลการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำและข้อมูลการจัดสรรน้ำร่วม) ด้วย
2.การประยุกต์ใช้ข้อมูลภาพถ่ายจากดาวเทียมเพื่อประเมินพื้นที่เพาะปลูกพืชและคำนวณความต้องการน้ำชลประทาน โดยดำเนินการในรูปแบบอัตโนมัติเพื่ออัพเดทข้อมูลพื้นที่เพาะปลูกให้เป็น ปัจจุบันรวมทั้ง จำลองสถานการณ์การจัดสรรน้ำชลประทานกรณีน้ำไม่เพียงพอด้วยแฟคเตอร์ปรับลดการจัดสรรน้ำ
3.การออกแบบและการพัฒนาระบบฐานข้อมูลและระบบจำลองอัตโนมัติ โดยมีข้อมูลที่ใช้ในการจำลองประกอบด้วย ข้อมูลปริมาณฝน ข้อมูลตรวจวัดสภาพภูมิอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลปริมาณฝนคาดการณ์ล่วงหน้าจากโครงการวิจัยของ สสน. ข้อมูลการบริหารจัดการอ่างเก็บน้ำ จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และระดับน้ำจากกรมชลประทาน ข้อมูลแผนและผลการจัดสรรน้ำรายสัปดาห์จากกรมชลประทาน สำหรับผลคาดการณ์ปริมาณน้ำท่าและประเมินความต้องการน้ำชลประทาน จากงานวิจัย เพื่อจัดการข้อมูลนำเข้าและแสดงผลอย่างอัติโนมัติ
2) โครงการวิจัยการพัฒนาระบบการจัดการอ่างเก็บน้ำแบบอัตโนมัติในลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดย รองศาสตราจารย์ ดร.อารียา ฤทธิมา แห่ง มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวว่า ได้พัฒนาต่อยอดจากโครงการวิจัยระยะที่ 1 และระยะที่ 2 ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จในระยะที่ 3 ใน เรื่อง “การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเสริมการเพิ่มน้ำต้นทุนของเขื่อนหลักเพื่อการพัฒนาลุ่มน้ำเจ้าพระยา” โดยที่ผ่านมาได้ผลักดันผลงานวิจัยให้เกิดนวัตกรรมการบริหารจัดการน้ำจากอ่างเก็บน้ำอัตโนมัติตามนโยบายการพัฒนาประเทศในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นลุ่มน้ำที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งในภาคเกษตรกรรมและ อุตสาหกรรมของประเทศ โดยนำเสนอแนวคิดการพัฒนาระบบการจัดการอ่างเก็บน้ำอัตโนมัติ ในลักษณะของปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำร่วมกันแบบหลาย รูปแบบใหม่อย่างเป็นระบบโดยอาศัยเทคโนโลยีด้านปัญญาประดิษฐ์ ในการบริหารจัดการเขื่อนเก็บน้ำเพื่อการแก้ปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งทั้งในระยะสั้นและระยะยาวในลุ่มน้ำเจ้าพระยา