นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชา 6 คน ถูกตั้งข้อหาก่อเหตุจลาจลซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุด 30 ปี ในวันนี้ (16)
ขณะที่พรรคฝ่ายค้านระบุว่าเป็นความพยายามที่จะทำลายระบอบประชาธิปไตย
นักเคลื่อนไหวที่ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือก 5 คน ถูกจับกุมตัวหลังเหตุปะทะ
ในระหว่างการชุมนุมนุมต่อต้านการปิดสถานที่ชุมนุมหลักของกรุงพนมเปญเมื่อวันอังคาร (15) ทั้งหมด
ถูกตั้งข้อหาเป็นผู้นำความเคลื่อนไหวก่อจลาจล ผู้วางแผนให้เกิดความรุนแรงโดยตั้งใจ และยุยงปลุกปั่น
การกระทำผิดทางอาญา ทนายความกล่าวกับผู้สื่อข่าว
สำหรับข้อหาการก่อจลาจลเพียงอย่างเดียวนั้น มีบทลงโทษจำคุกระหว่าง 20-30 ปี
“นี่เป็นความเสื่อมถอยของระบอบประชาธิปไตยในกัมพูชา” อัม สัม อัธ จากกลุ่มสิทธิมนุษยชน LICALHO
กล่าวและว่า ทั้ง 6 คน อยู่ในสถานควบคุมตัวก่อนเข้ารับการพิจารณาคดี
ผู้ที่ถูกควบคุมตัวยังรวมทั้ง มู สุจัว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีชื่อเสียงของพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP)
ที่เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านการปิดสวนเสรีภาพของกรุงพนมเปญอยู่หลายครั้งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
สวนสาธารณะแห่งนี้เปิดใช้งานเมื่อปี 2553 ถูกออกแบบให้เป็นสถานที่สำหรับประชาชนในการแสดงความ
คิดเห็นแต่สวนกลับถูกปิดล้อมด้วยรั้วลวดหนามนับตั้งแต่เดือนพ.ค.
มู สุจัว เขียนข้อความบนหน้าเฟซบุ้คเรียกร้องให้ผู้สนับสนุนเดินหน้าต่อสู้เพื่ออิสรภาพ สิทธิมนุษยชน
และเสรีภาพต่อไป
นายกรัฐมนตรีฮุนเซนต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆ เกี่ยวกับการปราบปราม
การชุมนุมประท้วงตามท้องถนนที่มีจุดมุ่งหมายท้าทายอำนาจเกือบ 3 ทศวรรษของตน นับตั้งแต่การเลือกตั้ง
พิพาทเมื่อปีก่อน
ฮุนเซนวัย 61 ปี ผู้ที่ให้คำมั่นว่าจะอยู่ในอำนาจไปจนกระทั่งอายุ 74 ปี ถูกฝ่ายค้านกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง
นักการเมือง ผู้ที่คว่ำบาตรรัฐสภานับตั้งแต่การเลือกตั้งพิพาทปีก่อน ถูกนำตัวมายังศาลกรุงพนมเปญ
พร้อมกุญแจมือ
ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านหลายร้อยคนรวมตัวกันใกล้เครื่องกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ถูกจับกุม
ฝ่ายค้านกล่าวหาพรรครัฐบาลของฮุนเซนว่าสร้างสถานการณ์ความรุนแรงจนเป็นเหตุนำไปสู่การจับกุมตัว
“นี่เป็นภัยคุกคามพรรคกู้ชาติกัมพูชา ความเคลื่อนไหวของศาลทำลายประชาธิปไตยของกัมพูชา”
ยึม สุวรรณ โฆษกพรรค CNRP กล่าว
แซม โสคง ทนายความคนที่ 2 ของฝ่ายค้าน กล่าวว่า ศาลกำลังสืบสวนนักการเมืองฝ่ายค้านคนอื่นๆ
อีกจำนวนหนึ่ง
รัฐบาลกล่าวหานักการเมืองฝ่ายค้านว่าจัดการชุมนุมประท้วงผิดกฎหมายด้วยการใช้ความรุนแรงอย่างโหดร้าย
จนทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บ 38 คน
“ความรุนแรงเกิดขึ้นไปไกลเกินกว่ากระบวนการของเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ผู้ชุมนุมประท้วงกระทำ
ความรุนแรงทางอาญาที่ไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า ด้วยการใช้ไม้ ก้อนหิน และเครื่องมือต่างๆ เป็นอาวุธในเจตนาที่
จะสังหารเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของท้องถิ่น” คำแถลงของรัฐบาล ระบุ
ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านราว 300 คน รวมตัวประท้วงเมื่อวันอังคาร (15) ที่บริเวณด้านนอกสวนเสรีภาพ
ที่ปิดใช้งานนับตั้งแต่การปราบปรามรุนแรงกับบรรดาแรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ผละงานประท้วง
ในเดือนม.ค.จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน
นักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านบางส่วนได้รับบาดเจ็บระหว่างการชุมนุม
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊ซน้ำตาเข้าหยุดการต่อสู้กันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและผู้ชุมนุม
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการชุมนุมประท้วงนอกสวนเสรีภาพหลายครั้ง ซึ่งกลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษยชน
ได้กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เข้าทำร้ายผู้ชุมนุมประท้วง ได้รับการว่าจ้างจากเจ้าหน้าที่
ท้องถิ่น
นักเคลื่อนไหวยังระบุว่า ศาลของกัมพูชาถูกแทรกแซงทางการเมืองโดยคนของรัฐ
เจ้าหน้าที่จากศูนย์สิทธิมนุษยชนกัมพูชา กล่าวว่า ข้อหาที่ตั้งขึ้นล่าสุดแสดงให้เห็นอีกครั้งว่าฝ่ายตุลาการ
ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเสียงของฝ่ายค้าน
โดยรัฐบาลกัมพูชา.