สำนักงานตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์กลับมาปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดในประเทศอีกครั้ง หลังหยุดไปนาน 1 เดือนตามคำสั่งของประธานาธิบดี ซึ่งไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่อยู่เบื้องหลังคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจเกาหลีใต้เสียเอง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ว่าพล.ต.อ.โรนัลด์ เดลา โรซา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ( พีเอ็นพี ) แถลงเมื่อวันจันทร์ เรื่องการกลับมาปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดทั่วประเทศอีกครั้ง หลังระงับไปตลอดทั้งเดือนก.พ. ที่ผ่านมา ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต ซึ่งไม่พอใจอย่างหนักหลังมีการสืบทราบพบว่าตำรวจฟิลิปปินส์อยู่เบื้องหลังคดีลักพาตัวและสังหารนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้เสียเอง
พล.ต.อ.โรนัลด์ เดลา โรซา
ทั้งนี้ พล.ต.อ.เดลา โรซา แสดงความเชื่อมั่นว่าปฏิบัติการครั้งนี้จะ “นองเลือดน้อยลง” หรือทางที่ดีที่สุดไม่ควรมีเหตุการณ์รุนแรงอีก เมื่อเทียบกับปฏิบัติการครั้งแรกที่เกิดขึ้นแทบจะทันทีหลังดูเตร์เตรับตำแหน่งผู้นำฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ปีที่แล้ว และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 8,000 คนตามการประเมินของนักสิทธิมนุษยชน แต่พล.ต.เดลา โรซา ปฏิเสธตัวเลขดังกล่าว โดยยืนยันสถิติของพีเอ็นพี ว่าอยู่ที่ 2,555 คนเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการพีเอ็นพียังคงปฏิเสธเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งใหม่ โดยกล่าวเพียงว่า “เป็นภารกิจและความรับผิดชอบ” ของพีเอ็นพี ในการ “แก้ไขตัวเอง” และกวาดล้างยาเสพติดให้หมดไปจากสังคม
ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงมะนิลาออกแถลงการณ์ตอบโต้รายงานสิทธิมนุษยชนประจำปีของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ที่วิจารณ์มาตรการกวาดล้างยาเสพติดของตำรวจฟิลิปปินส์เป็น “การฆ่านอกกฎหมาย” และละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นร้ายแรง ว่ากรณีสิทธิมนษุยชนกับมาตกรการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ “เป็นคนละประเด็นกัน”.
คลิปประกอบ : Rappler