นายอำเภอเมืองจันทบุรี ไม่นิ่งเฉย หลังเพจดังปล่อยคลิปเสียง อ้างมีการเรียกรับเงินการขอออกใบอนุญาต ป.3 อาวุธปืน และร้านบุหรี่ไฟฟ้า สั่งย้ายทันที พร้อมตั้งกรรมการสอบ หากความผิดชัด ดำเนินการทางวินัยแน่นอน
จากกรณี่ที่เพจ ชมรมคนไม่กลัวอิทธิพล-สำรอง ได้มีการโพสต์คลิปภาพพร้อมข้อความว่า แหล่งข่าวแจ้งมาตามนี้นะครับ ว่าได้ไปขอใบ ป.3 กับทางอำเภอเมืองจันทบุรี และไปเจอกับข้าราชการนายหนึ่ง โดยข้าราชการคนดังกล่าว ได้ระบุว่าถ้าจะขอใบ ป.3 จะต้องจ่าย 1 หมื่นบาท ทั้งที่จริงๆแล้ว ค่าธรรมเนียมในการขอใบ ป.3 แค่ 5 บาทเท่านั้น และได้มีการจ่ายเงินให้กับข้าราชการคนดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว #ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี ว่ายังไงครับ #นายอำเภอเมืองจันทบุรี ยังจะนิ่งเฉยกับผู้ใต้บังคับบัญชาเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ เร็วๆนี้ ทางชมรมฯ จะทำหนังสือไปติดตามคืบหน้าการตั้งกรรมการสอบทางวินัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน หากนิ่งเฉย ผมจะเคลื่อนไหวตามขั้นตอนของทางชมรมฯต่อไป #ที่สำคัญเรื่องนี้ถือว่าสำคัญนะครับเพราะว่าทางกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายเรื่องการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืน แต่เมื่อมีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องนโยบายเลยเอาไว้ทีหลังใช่ไหมครับ กรมการปกครอง fanpage กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง
หลังจากนั้น ได้มีการโพสต์คลิปเสียงมาอีกอย่างต่อเนื่อง ระบุถึงคลิปเสียงดังกล่าวว่า เป็นการสนทนาเกี่ยวกับการเรียกรับเงิน เป็นค่าตอบแทนการออกใบอนุญาตให้ซื้ออาวุธและเครื่องกระสุนปืน(แบบ ป.3) และเรียกรับเงินจากผู้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยรายที่ขอออกใบอนุญาตแบบ ป.3 มีการจ่ายเงินให้กับปลัดอำเภอจำนวน 10,000 บาท ส่วนรายของร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า มีการคุยถึงการจ่ายเงินในการดูแลหน่วยงานต่างๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับดำเนินคดี
ขณะที่นายกิตติพงษ์ กิติคุณ นายอำเภอเมืองจันทบุรี เปิดเผยว่า หลังจากทราบข้อมูล ได้เรียกปลัดอำเภอมาชี้แจงข้อมูลในทันที พร้อมทั้งสั่งย้ายการทำงานจากปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ให้อยู่ประจำสำนักงาน พร้อมกันนี้ช่วงเย็นวันนี้ (16 พ.ย.66) ได้ลงนามการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งตามที่ได้สอบถามปลัดอำเภอท่านนี้ยังยืนยันว่า ไม่ได้เรียกรับเงิน และไม่รู้เรื่องดังกล่าว หากผู้เสียหาย หรือผู้ที่อยู่ในคลิปมีหลักฐานการจ่ายเงิน โอนเงินให้กับปลัดคนดังกล่าว ทางอำเภอก็พร้อมให้ความเป็นธรรมและดำเนินการตามขั้นตอนกับปลัดอำเภอ เพราะถือเป็นเรื่องเสียหาย / ส่วนการออกใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืน ตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมา ที่กระทรวงมหาดไทยสั่งคุมเข้มการใช้อาวุธปืนตามนโยบายรัฐบาล งดออกใบอนุญาต-ขึ้นทะเบียนแบลงค์กันหรืออาวุธเทียม ทางอำเภอเมืองจันทบุรี ก็แทบจะไม่ได้ออกใบอนุญาตให้ใคร หากออกก็พิจารณาอย่างถี่ถ้วน
เบื้องต้นได้ย้ายปลัดอำเภอคนดังกล่าว ไปนั่งทำงานในฝ่ายอื่นก่อน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้สอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน ทั้งยังให้ปลัดอำเภอไปแจ้งความ หากเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง ส่วนการสอบสวนหากพบมีความผิดจะดำเนินการทางวินัยและตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป