ความวัวไม่ทันหายความในใจยังไม่ทันเคลียร์ ก็ต้องเพลียอีกแล้ว เมื่อมีคนออกมาแฉว่า สาวเอสเธอร์ – สุปรีย์ลีลา เบี้ยวงานรอบสองแถมยังไม่คืนเงินมัดจำค่าตัวอีกด้วย ล่าสุดเจ้าตัวก็ต้องออกมาชี้แจงว่าผู้ว่าจ้างเป็นคนขอแคนเซิล หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสดราม่า เพราะว่าอยากให้คนโฟกัสที่ผลิตภัณฑ์ พร้อมยืนยันมีการคืนเงินมัดจำค่าตัวไปแล้วทั้งที่ตามจริงนั้นเป็นสิทธิของตน เรื่องจากเป็นข้อตกลงและผู้จ้างเป็นคนแคนเซิลงานเอง
เราถูกโยงว่าเป็นนางเอกสตรอว์เบอร์รี่ทำอีเว้นท์ป่วน?
“ไม่น่าจะใช่นะคะ เพราะเร็วๆ นี้ยังไม่มีออกอีเว้นท์ไหนเลย อย่างที่เพิ่งมีปัญหาไปอันนั้นเราก็ไม่ได้ไปงานอีเว้นท์ด้วย อย่างที่บอกคือโดนแคนเซิลงาน ไม่น่าจะเกี่ยวแน่นอนค่ะ”
แต่มีงานหนึ่งที่ตอนแรกเป็นชื่อเรา แล้วมาเปลี่ยนเป็นชื่อ คาริสา ทีหลัง?
“ไม่แน่ใจ เพราะหนูไม่รู้เลยค่ะ”
เป็นงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางยี่ห่อหนึ่ง?
“อ๋อ ถ้าเป็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแสดงว่าน่าจะเป็นอันนึงที่เขาติดต่อมาก่อนค่ะ แล้วได้มีการแคนเซิลไป”
เหตุผลที่แคนเซิลเพราะอะไร?
“เป็นเพราะว่าเหมือนทางออแกไนซ์เซอร์บอกว่าอยากให้โฟกัสที่ตัวผลิตภัณฑ์มากกว่าค่ะ ก็เลยแคนเซิลไป”
ทางรายการ รายการหนึ่งอ้างว่าเรารับเงินบางส่วนไปแล้ว และไม่ยอมคืน?
“เป็นปกติค่ะ เวลาเราทำงานก็ต้องมีการมัดจำถ้าได้คอนเฟิร์มแล้ว พอมัดจำปุ๊บถ้าแคนเซิลเขาก็ได้รับปากไว้แล้วว่าถ้ามีการแคนเซิลคุณก็ต้องจ่ายมาทั้งหมดใช่ไหมคะ แต่สุดท้ายได้มีการแคนเซิลเขามาบอกว่าถ้างั้นขอคืนได้ไหมค่ามัดจำ ซึ่งถ้าตามที่ทำงานสัญญากันแล้ว มันก็ต้องทำตามที่เซ็นสัญญาไว้ แต่โอเคไม่เป็นไรเขาคุยกับคุณแม่ไว้ ซึ่งหนูไม่รู้รายละเอียดอะไร โอเคไม่เป็นไรหยวนๆ ไปแล้วกัน เราก็เลยคืนไปค่ะ ไม่แน่ใจว่าคุณแม่คืนหมดไหม หนูไม่รู้รายละเอียด แต่ได้ยินคุณแม่คุยโทรศัพท์ทำให้รู้แค่เบื้องต้นค่ะ”
สรุปคือเขาเป็นฝ่ายแคนเซิลเราใช่ไหม?
“เขาเป็นฝ่ายแคนเซิลค่ะ ก็อย่างที่บอกไปตอนแรก เขาอยากจะโฟกัสที่ตัวผลิตภัณฑ์เขา อยากให้สัมภาษณ์เรื่องผลิตภัณฑ์เขามากกว่า”
ไม่ได้เกี่ยวกับข่าวใช่ไหม?
“ไม่ได้เกี่ยวกับข่าว แต่หนูมองว่าลูกค้ามองสถานะการณ์ ณ ตอนนั้นเป็นยังไง”
พอเป็นแบบนี้เราเสียความรู้สึกไหม?
“ไม่เสียนะคะ หนูว่ามันเป็นปกติ มีการตกลง มีการแคนเซิล เดี๋ยวนี้มันเป็นอะไรที่ธรรมดาแล้วอ่ะ การทำงานมันก็ต้องมีการตกลงทั้งสองฝ่ายตามที่เห็นปรองดองกัน”
เหมือนกระแสออกมาว่าจริงๆ คุณแม่เรารับปากจะให้เราไปพูดประเด็นข่าว แต่เราพูดในอีเว้นท์ที่เกิดขึ้นก่อน เขาจึงขอแคนเซิล ?
“จริงๆ แล้วด้วยความที่งานนั้นมันมาก่อน เราก็ต้องให้เกียรติพูดงานนั้นก่อน อยู่ดีๆ เราจะไปไม่พูด เก็บเอาไว้พูดอีกงานก็ไม่ได้ พี่ๆ นักข่าวทุกคนก็มาแล้ว เราก็ต้องให้เกียรติงานที่มาก่อน คือถ้าคุณต้องการแบบนั้นคุณต้องบอกแต่แรกว่าคุณต้องการอะไร ให้เข้าใจและเคลียร์กันตรง เราจะได้รู้ เพราะไม่อย่างนั้นเราจะได้ไม่รับตั้งแต่แรกแล้ว”
เราได้ถามคุณแม่ไหมว่าได้ตกลงอะไรกับออแกไนซ์บ้าง เพราะงานอีเว้นท์นั้นคุณแม่ไม่ได้ไปคุมเลยไม่รู้ว่าเราตอบคำถามอะไรไป?
“ไม่ๆ คุณแม่อยู่ด้วย สัมภาษณ์กันทุกคนได้ยินหมด มันก็มีข่าวออกไป มีไลฟ์สด หนูว่าต่างคนต่างแสดงความต้องการที่ไม่ชัดเจน ไม่บอกความต้องการที่ชัดเจนของตัวเอง”
ทางนั้นเขาได้ตกลงกับเราไหม ว่าให้เก็บข่าวไว้พูดในงานเขา?
“ไม่ เขาไม่ได้บอกอย่างนี้ค่ะ เขาแค่บอกว่าเซฟๆ ไว้นะ แล้วคือเราก็ไม่รู้เซฟๆ คือยังไง เพราะทุกครั้งที่ทำงานมันก็ต้องมีการสัมภาษณ์หลังงานอีเว้นท์ มันก็เป็นเรื่องปกติที่เราทำมา เราไปออกงานไหนก่อนเราห็ต้องให้สิทธิ์เขาก่อน”
ตัวเราเสียใจไหมที่เขาออกมาพูดว่าเราเบี้ยวงานและไม่ยอมคืนเงิน?
“ถ้าจะมาบอกว่าเบี้ยวงานต่างคนก็ต่างรู้อยู่แก่ใจค่ะ รู้ว่าอะไรมันคืออะไร เราก็ไม่ต้องไปแก้ไขอะไรแล้ว”
เซ็งไหมเจอแต่ปัญหาที่เกี่ยวกับอีเว้นท์ตลอดเลย?
“เออนั่นสิ เริ่มงงๆ แล้ว แต่ก็เข้าใจค่ะ การทำงานมันมีปัญหากันได้อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ”
พอเจอปัญหาบ่อยๆ กลัวคนจะไม่กล้าจ้างงานเราไหม?
“ไม่ๆๆ จ้างได้ๆ ก็ยังมีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ ว่างค่ะว่าง คิวไหนว่างจ้างได้เลยค่ะ (หัวเราะ)”
เห็นค่าตัวตอนนี้จากหลักหมื่นปลายๆ กลายเป็นหลักแสนแล้ว?
“ว๊าย ไม่ๆ ปกติ เรทการทำงานหนูไม่ได้ขึ้นค่ะ เป็นเรทที่คงที่มาแบบนี้ตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว แต่อย่ารู้เลยเรื่องจำนวนเงิน เรื่องเงินเอาไว้เป็นส่วนตัวดีกว่าค่ะ ส่วนตัวสโคปของงานหนูว่าเป็นกันทุกคนนะคะ ถ้าใช้ให้ทำงานในปริมาณเยอะ เราก็ต้องคิดงานตามลักษณะของงานค่ะ”
ยืนยันได้ใช่ไหมว่าเวลาเราคุยตกลงเรื่องงานทุกอย่างจะจบลงด้วยดี?
“คุยตกลงกันด้วยดีอยู่แล้วค่ะ เพราะที่ผ่านมาทำอีเว้นท์ก็ไม่ได้มีปัญหาตลอดเลยค่ะ”
ตอนนี้คนติดภาพเราเป็นนางเอกสตรอว์เบอร์รี่ไปแล้ว?
“แล้วแต่คนจะคิดแล้วกันค่ะ เพราะเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด และอีกอย่างเราก็ชินแล้ว เพราะมันเป็นอาชีพที่ก็สิ้นเปลืองเหมือนกันนะ คนจะเอาเราไปว่า เอาเราไปพูดอะไร ทั้งๆ ที่เขาก็ยังไม่ได้รู้จักเราดี เราก็ต้องทำใจและเข้าใจ ณ จุดๆ นี้ค่ะ”
ซีเรียสไหม เพราะคำว่าสตรอว์เบอร์รี่ค่อนข้างเป็นคำที่แรงอยู่เหมือนกัน?
“ไม่เครียดๆ พยายามจะไม่คิด หนูถือว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ ถ้าวันหลังจะแจกขอเป็นของจริงดีกว่า (หัวเราะ)”
ข่าวที่ผ่านมามันบั่นทอนจิตใจเรามากแค่ไหน?
“ช่วงแรกๆ บั่นทอนค่ะ แต่หลังๆ ชินแล้ว มันเหมือนเป็นยาชั้นดีให้เรารู้สึกว่าเรามีเกราะที่แข็งแรงมากขึ้น เราโตขึ้น เรามองเห็นโลกที่กว้างมากขึ้นค่ะ”
เคน ภูภูมิ ให้กำลังใจอะไรบ้าง?
“ปกติค่ะ ให้กำลังใจเหมือนเดิม เขาไม่ได้มีถามอะไร เราคุยกันเรื่อยๆ ทำให้รู้ว่าช่วงนี้เป็นยังไง”