วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 : นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้กรมศุลกากรเข้มงวดในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการลักลอบหลีกเลี่ยงนำเข้า–นำออกไปของที่มีภาระค่าภาษี ของผิดกฎหมาย ของต้องห้าม ต้องกำกัด กรมศุลกากรจึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบของติดตัวผู้โดยสารทั้งการนำเข้ามาในและการนำออกไปนอกราชอาณาจักร
โดยเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม ส่วนควบคุมทางศุลกากร สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้บูรณาการร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมประมง และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จับกุมผู้โดยสารพยายามลักลอบนำสัตว์มีชีวิตออกไปนอกราชอาณาจักร จำนวน 2 ราย รายละเอียด ดังนี้
1.ชาย สัญชาติเกาหลี อายุ 24 ปี กำลังจะเดินทางไปกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี ด้วยสายการบิน Thai Air Asia X เที่ยวบินที่ XJ700 วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ผลการตรวจค้นพบ สัตว์มีชีวิตประเภทบึ้ง จำนวน 39 ตัว และอีกัวน่า ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 2 จำนวน 5 ตัว รวมจำนวน 2 รายการ จำนวนทั้งหมด 44 ตัว โดยของกลางทั้งหมดบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ผู้โดยสารจะโหลดในห้องบรรจุสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
2.ชาย สัญชาติอิสราเอล อายุ 52 ปี กำลังจะเดินทางไปกรุงเทลอาวีฟ รัฐอิสราเอล ด้วยสายการบิน El Al Israel Airlines เที่ยวบินที่ LY82 วันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ผลการตรวจค้นพบ สัตว์มีชีวิตประเภท เต่า (อนุสัญญาฯ CITES บัญชี 2) จำนวน 29 ตัว งู (อนุสัญญาฯ CITES บัญชี 2) จำนวน 31 ตัว ตะกวด จำนวน 3 ตัว ตุ๊กแก จำนวน 8 ตัว จิ้งจก จำนวน 4 ตัว กิ้งก่า จำนวน 1 ตัว อิกัวน่า (อนุสัญญาฯ CITES บัญชี 2) จำนวน 1 ตัว มังกรโคโมโด (อนุสัญญาฯ CITES บัญชี 1) จำนวน 3 ตัว รวมทั้งหมดจำนวน 80 ตัว โดยของกลาง ทั้งหมดบรรจุอยู่ในกระเป๋าเดินทางที่ผู้โดยสารจะโหลดในห้องบรรจุสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
โฆษกกรมศุลกากร กล่าวต่อว่า การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานพยายามส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ตามมาตรา 242 ประกอบมาตรา 166 และ 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 ประกอบกับสัตว์ดังกล่าวบางรายการอยู่ภายใต้การควบคุมตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ชนิดพันธุ์ในบัญชีหมายเลข 1 และ 2 ภายใต้พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 23 วรรคแรก และมาตรา 112 ซึ่งอยู่ในบทเฉพาะกาล ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 มาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 และมาตรา 92 วรรค 2 แห่งพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558