ตามนโยบายของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ สตม. สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย
ในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบ ชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือ กลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม.,พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม.,พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.สิทธิ์ ศิริกังวานกุลรอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.มณุวัฒน์ กอสนาน รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.กฤชมงกุฎ บูรณะภักดี ผกก.ตม.จ.หนองคาย,พ.ต.ท.ธียาฌพัตท์ รังสิพราหมณกุล รอง ผกก.ตม.จ.หนองคาย ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 12 พ.ย.2566 ตม.จ.หนองคาย ได้รับการประสานจาก ชุดสืบสวน บก.ป.บช.ก. และ ชุดสืบสวน สภ.ขุนหาญ ภ.จ.ศรีสะเกษ ให้ช่วยสืบสวนติดตาม นาย ธีรเดช หรือเสี่ยก้อง เมืองอุบล อายุ 43 ปี สัญชาติไทย บุคคลตามหมายจับรายสำคัญ ซึ่งมีพฤติกรรมเปิดรับจำนำรถยนต์ที่ติดไฟแนนซ์ในราคาถูก ใช้อุบายอ้างว่าจะเคลียร์งวดรถลูกค้าทั้งหมดให้ทันที โดยไม่ต้องรับภาระจ่ายค่างวดรถที่เหลืออีกต่อไป จนมีประชาชนที่ติดภาระค่างวดผ่อนรถยนต์หลายรายหลงเชื่อ เมื่อประชาชนมอบรถยนต์ให้กับเสี่ยก้องแล้ว เสี่ยก้องจะนำรถยนต์ไปจำหน่ายประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนเจ้าของรถยนต์กลับถูกไฟแนนซ์ฟ้องร้อง เนื่องจากขาดการชำระค่างวดเป็นเวลานาน ทั้งยังไม่สามารถติดต่อเสี่ยก้องได้ จนมาทราบภายหลังว่าถูกหลอก นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ต้องหารายดังกล่าวใช้อุบายหลอกลวงประชาชนมาร่วมลงทุน ร้านพรีเวดดิ้ง ร้านอาหาร เต็นท์รถเช่า คาร์แคร์ ว่าจ้างพนักงานไม่จ่ายค่าแรงพนักงาน หลอกให้ PR ไปทำศัลยกรรมและไม่จ่ายค่าศัลยกรรม มีผู้หลงเชื่อ ผู้เสียหายหลายสิบคน ต่อมาเบื้องต้นได้ถูกศาลออกหมายจับ จำนวน 4 หมาย แต่เสี่ยก้องจมูกไวได้หลบหนีออกจากพื้นที่ มากบดานที่ชายแดนจังหวัดหนองคายเพื่อหาวิธีลักลอบข้ามไป สปป.ลาว ทางช่องทางธรรมชาติ ชุดสืบสวน ตม.จ.หนองคาย จึงได้ออกสืบสวนติดตามจนกระทั่งทราบว่า เสี่ยก้องได้มาหลบซ่อนที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเขต ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย และกำลังจะหลบหนีข้ามไป สปป.ลาว ทางช่องทางธรรมชาติ จึงได้วางแผนให้จับกุม โดยวันที่ 13 พ.ย.2566 ตั้งแต่เวลา 03.00 น. ชุดสืบสวน ตม.จว.หนองคาย ได้สนธิกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณหน้าโรงแรมต้องสงสัย จนกระทั่งพบเสี่ยก้องเดินออกมาจากห้องพัก จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมจากนั้นได้ควบคุมตัวส่งศาลแขวงอุบลราชธานี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิม
พระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6
ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง