เมื่อวันศุกร์ ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยที่เสียชีวิตจากสงครามในอิสราเอลจำนวน 34 ราย ว่า ตนขอแสดงความเสียใจและขอแสดงความห่วงใยกับทั้ง 34 ครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักและสูญเสียเสาหลักในการเลี้ยงดูครอบครัว บางครอบครัวมีบุตรหลานที่กำลังอยู่ระหว่างการศึกษา ดังนั้นเพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระไม่ให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตต้องเผชิญกับความสูญเสียเพียงลำพัง และจากนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ภายใต้แนวคิด “เรียนดี มีความสุข” ตนได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ทำการสำรวจและรวบรวมข้อมูลของผู้เสียชีวิตว่ามีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดใดบ้าง มีบุตรหลานเรียนอยู่ที่จังหวัดไหนโรงเรียนอะไรบ้าง เมื่อทราบโรงเรียนแล้วให้เขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนั้นๆร่วมกับโรงเรียนเข้าไปช่วยเหลือดูแลนักเรียนทันที
“สำหรับการดูแลเบื้องต้นในระยะเร่งด่วน ทางเขตพื้นที่การศึกษาที่รับผิดชอบได้มีการส่งนักจิตวิทยาร่วมกับครูแนะแนวในพื้นที่ ลงไปสอบถามพูดคุยกับนักเรียนและครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อสร้างขวัญกำลังใจร่วมกับการประเมินสภาพจิตใจของนักเรียนและคนในครอบครัว ในส่วนของโรงเรียนก็จะทำการสำรวจความขาดแคลนและความต้องการ หากครอบครัวไหนเดือดร้อนก็จะให้โรงเรียนหาแนวทางในการดูแลช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยอาจมีการขอการสนับสนุนจากผู้มีจิตใจอันเป็นกุศลในพื้นที่เพื่อให้การดูแลและสร้างการมีส่วนร่วมในชุมชน หากในพื้นที่ยังไม่เพียงพอ ก็ให้ทำการประสานมายังเขตพื้นที่การศึกษาและส่วนกลางเพื่อให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป ส่วนในระยะยาวจะมีครูแนะแนวร่วมกับนักจิตวิทยาคอยประเมินสภาพจิตใจเป็นระยะๆ เช่นเดียวกับเขตพื้นที่การศึกษาที่จะคอยดูแลช่วยเหลือ ไม่ให้ครอบครัวต้องเผชิญความสูญเสียเพียงลำพัง เพราะเราชาวกระทรวงศึกษาธิการจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” รมช.ศึกษาธิการ กล่าว