กองบัญชาการตำรวจนครบาล ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.(สส),พล.ต.ต.ชรินทร์ โกพัฒน์ตา รอง ผบช.น.(ปป) ได้สั่งการ ให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 (บก.น.3) เร่งติดตามจับกุมคนร้ายก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า สาขา ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีหนองจอก เพื่อคลี่คลายคดีโดยด่วน นั้น
วันที่ 12 พ.ย.2566 เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุม กก.สส.บก.น.3 โดยพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.น.ให้เกียรติมาประธานฯ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติกุล สนธิเณร รรท.ผบก.น. 3,พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม รอง ผบก.น.3,พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ รอง ผบก.น.3,พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.หนองจอก,พ.ต.อ.นิเวชร์ งามลาภ ผกก.สส.บก.น.3,พ.ต.ท.อธิช์ลักษณ์ สาระศาลิน รอง ผกก.สส.สน. หนองจอก,พ.ต.ท.ชัยธัช เชียงทา รอง ผกก.สส.สน.ลำผักชี รวมทั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หนองจอก สน.ลำผักชี และ กก.สส.บก.น.3 ร่วมแถลงข่าวจับกุม นายธวัฒน์ชัย ไตรเรกพันธุ์ อายุ 54 ปี อดีต รปภ.โรงเรียนนานาชาติใช้กล่องยาสีฟันทำปืนปลอมก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านทองออโรร่า สาขา ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีหนองจอก นอกจากนี้ คุณชาญณรงค์ ด้วงแก้ว ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย ห้างทองออโรร่า เป็นผู้แทนมามอบกระเช้าเพื่อแสดงความขอบคุณที่ตำรวจที่จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้ได้อย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง
สืบเนื่องมาจากวันที่ 10 พ.ย.2566 เวลาประมาณ 14.27 น.ได้เกิดเหตุคนร้าย ใช้อาวุธปืน ก่อเหตุชิงทรัพย์ เหตุเกิดที่บริเวณ ร้านทองออโรร่า ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าบิ๊กชี สาขาหนองจอก ถนนเลียบวารี แขวงกระทุ่มราย เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ได้ทรัพย์สิน เป็นสร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท จำนวน 3 เส้น และเงินสด ประมาณ 40,000 บาท แล้วหลบหนีไป ต่อมา บริษัท ออโรร่า ดีไซน์ จำกัด (มหาชน) โดย น.ส.จินตนาภรณ์ ละทารุณ ผู้รับมอบอำนาจ ในฐานะผู้เสียหาย ได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก ในความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ โดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป” เป็นคดีอาญาที่ 359/2566 ของ สน.หนองจอก ลงวันที่ 10 พ.ย.2566 ปจว.ข้อ 3 เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากนั้น พ.ต.อ.เกียรติกุล สนธิเณร รรท. ผบก.น.3 เรียกทีมงานชุดสอบสวนประชุมเพื่อคลี่คลายคดีโดยด่วน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หนองจอก พร้อมด้วย สน.ลำผักชี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.3 ได้ร่วมกันตรวจสอบภาพจากกล้อง CCTV ตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนีและหาข้อมูลที่เกิดเหตุรวมไปถึงบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้ทราบตำหนิรูปพรรณคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุโดยคนร้ายสวมใส่เสื้อสีเทา กางเกงขายาวสีดำสวมปลอกแขนสีเทา สวมหมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำ กระเป๋าสะพายข้าง หลังจากก่อเหตุแล้วคนร้ายได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางถนนเลียบวารี เข้าถนนสุวินทวงศ์แล้วกลับรถเข้าที่พักย่านลำผักชี แขวงลำผักชี เขตหนองจอกกรุงเทพมหานคร
จากการสืบสวนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์คือ นายธวัฒน์ชัย ไตรเรกพันธุ์
อายุ 54 ปี ที่อยู่ 61/282 หมู่ที่ 2 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.หนองจอก จึงรวบรวมพยานหลักฐานทั้งภาพถ่ายจากกล้อง CCTVและเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด นำส่งให้พนักงานสอบสวน สน.หนองจอก และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวต่อศาลอาญามีนบุรี และศาลอาญามีนบุรีอนุมัติหมายจับตามหมายจับที่จ.1173/2566
ลงวันที่ 11 พ.ย.2566 ในความผิดฐาน “ชิงทรัพย์ โดยมีหรือใช้อาวุธปีน โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”
ต่อมาในวันที่ 11 พ.ย.2566 เวลาประมาณ 16.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.หนองจอก สน.ลำผักชี และกก.สส.บก.น.3 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายธวัฒน์ชัย ไตรเรกพันธุ์ อายุ 54 ปีผู้ต้องหาตามหมายจับดังกล่าวพร้อมด้วยของกลาง สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทจำนวน 3 เส้น เงินสด 6,140 บาท (เงินสดที่ได้จากการชิงทรัพย์จำนวน 40,000 บาทนำไปใช้หนี้บัตรเครดิต เหลือเงินสด 6,140 บาท) เสื้อผ้าและปลอกแขนสีเทาที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ หมวกนิรภัยแบบเต็มใบสีดำและรถจักรยานยนต์ ที่ใช้ในการก่อเหตุได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 61/282 หมู่ 2 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร โดยผู้ต้องหาให้การรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุและเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อน ส่งพนักงานสอบสวน สน.หนองจอก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป