วันที่ 23 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ถนนสายเลียบคลองส่งน้ำชลประทานเพชรบูรณ์ ช่วงหน้าวัดทุ่งสะเดียง เขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ไปจนถึงเขตบ้านไร่ หมู่ที่ 8 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ เกิดการชำรุดทรุดโทรมพื้นผิวจราจรขรุขระเป็นหลุมเป็นบ่อแทบจะตลอดเส้นทางราว 3 กิโลเมตร ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยเฉพาะผู้ขับขี่จักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บและรถยังได้รับความเสียหาย ยางแตก แม็กดุ้ง ไปแล้วหลายราย
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ถนนสายดังกล่าว พบว่า มีการชำรุด เป็นหลุมเป็นบ่อ มีรถประชาชน ใช้สัญจร เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเส้นทางดังกล่าว เป็นเหมือนเส้นทางเลี่ยงเมือง ซึ่งไม่ต้องวิ่งผ่านชุมชน โรงเรียน ตลาด และสี่แยกไฟแดงต่างๆจึงทำให้เส้นทางดังกล่าวจึงมีรถสัญจรค่อนข้างมาก
นายพรา ลองแขวง อายุ 59ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 7 ต.สะเดียง เล่าว่า ถนนสายนี้ พังเรื้อรังมานาน อยากให้ผู้มีอำนาจลงมาดู และแก้ไข เนื่องจากถนนสายนี้มีคนใช้เยอะ ทั้งนักเรียนและผู้ที่ไปทำงาน อยากให้ผู้ที่รับผิดชอบ ออกมาซ่อม หรือมาสร้างใหม่ได้หรือไม่ เพราะอยากเห็นเพชรบูรณ์ มีความเจริญ ไม่อยากเห็นถนนที่เป็นเหมือน โลกพระจันทร์หรือดาวอังคาร การขับขี่ก็ต้องระมัดระวัง เมื่อเจอหลุม ก็ต้องค่อยๆหยอด ชะลอความเร็ว ถ้าไม่อย่างนั้นก็รถล้ม ซึ่งถนนสายนี้ มีคนใช้เยอะมากถ้าหากไม่เชื่อให้ท่านผู้มีอำนาจลงมาดู เพราะถนนเส้นนี้ปัจจุบัน เป็นเหมือน ถนนเลี่ยงเมืองอีกเส้นหนึ่ง เนื่องจากสะดวก ในการเดินทาง เข้า ออก ตัวเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเส้นทางดังกล่าว มีการเชื่อมต่อระหว่างเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ไปยังหมู่ที่ 6 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8 ของ องค์การบริหารส่วนตำบลสะเดียง ถ้าหากผู้มีอำนาจไม่เชื่อ สามารถมานั่งจดสถิติ รถที่ใช้สัญจรได้ โดยเฉพาะ ชาวบ้านป่าแดงและชาวบ้านพลำจะเข้าเมืองถือว่าสะดวกมากกับถนนเส้นนี้ ปัจจุบันชาวบ้านเดือดร้อนมากๆอยากให้ผู้มีอำนาจ หรือหน่วยงานไหนก็ได้ ที่สามารถเข้ามาดูแลได้ จะได้สมชื่อว่าเพชรบูรณ์ เมืองน่าอยู่ ไม่ใช่ว่าเป็นเหมือนดาวอังคาร หรือโลกพระจันทร์ อย่างที่เขาเหน็บแนมกัน เร่งมาสร้างหรือแก้ไขเพื่อให้บ้านเมืองดูสวยงามและความเจริญต่อไป
///////