“ดีเอสไอ” ลุยทำฐานข้อมูลเอาผิดธรรมกายกรณีฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ขู่ดำเนินคดีเกลี้ยง ลั่นตัดสัญญาณมือถือ-เน็ตคลุมเฉพาะพื้นที่เน้นโซนเอ-บี
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะโฆษกดีเอสไอ แถลงผลการปฏิบัติการตามมาตรการตรวจค้นวัดพระธรรมกายว่า ในวันนี้ดีเอสไอร่วมกับกสทช. ตัดสัญญาณโทรศัพท์ภายในวัดพระธรรมกายและพื้นที่รอบนอกแล้ว โดยเป็นผลสืบเนื่องจากบุคคลภายในวัดใช้โซเซียลมีเดียปลุกปั่นยุงยงส่งเสริมให้ประชาชนก่อความไม่สงบ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน
“พื้นที่ที่ถูกตัดสัญญาณอยู่ในภายในวัดทั้งหมด โดยเฉพาะพื้นที่โซนเอและโซนบีเท่านั้น เพื่อให้กระทบกระเทือนกับประชาชนน้อยที่สุด ส่วนสัญญาณอินเตอร์เน็ตทั้งการกระจายสัญญาณทางอากาศและสายเคเบิ้ลในพื้นที่ควบคุมไม่สามารถใช้งานได้เลย ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะดำเนินการจนกว่าจะหมดความจำเป็น”
สำหรับผู้ฝ่าฝืนคำสั่งคสช.นอกเหนือจากพระสงฆ์ 14 รูป นั้น ล่าสุดดีเอสไอได้จัดทำฐานข้อมูลในการร้องทุกข์กล่าวโทษเป็นรายบุคคล จึงฝากเตือนไปยังกลุ่มผู้สนับสนุนผู้ต้องหาตามหมายจับไม่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
สำหรับภาพการขึงลวดหนามหีบเพลงบริเวณประตู 5,6 เป็นลวดหนามของทางวัดไม่ใช่เจ้าหน้าที่ ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินที่ได้รับการร้องขอให้เข้าตรวจสอบพื้นที่ก็ถูกขัดขวางเข้าพื้นที่ไม่ได้ ทางดีเอสไอพยายามไม่ให้สถานการณ์ยืดเยื้อ การนำผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเป็นวิธีการที่ดีที่สุด
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า แนวปฏิบัติสำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบริเวณวัดยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ พระสงฆ์สามารถบิณฑบาตรและรับถวายอาหารเพลได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำเข้าอาหารสด
อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอได้ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เปิดสายด่วน 1669 สำหรับแจ้งเหตุฉุกเฉินให้แพทย์เข้าไปตรวจรักษาพระสงฆ์และประชาชนภายในวัดพระธรรมกายที่เจ็บป่วยได้ทันที โดยมีทีมแพทย์ฉุกเฉินและรถพยาบาล 50-60 คัน จอดรถอยู่ที่สภ.คลองหลวง พร้อมให้บริการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินทุกวัน 24 ชม. สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุกระทบกระทั่งหน้าวัดธรรมกายได้นำส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโดยผู้บาดเจ็บทุกรายกลับบ้านไปหมดแล้ว