ชาวลพบุรีผวาหนัก เจอดวงไฟสีแดง ลอยไปมายามค่ำคืน เชื่อว่าเป็นกระสือ เพราะมีคนเผชิญหน้าเห็นจะๆ เป็นหน้าคนแก่หัวหงอก มีไส้ห้อย แยกเขี้ยวหน้าทะมึนใส่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวลพบุรีหลายคนถ่ายภาพนิ่งของแสงกระสือไว้ได้ ทุกคนยืนยันว่า ดวงไฟสีแดงนี้คือกระสือ ที่ออกมาหากินยามค่ำคืน
ลุงวิเชียร อายุ 70 ปี เจ้าของเล้าหมู เป็ด ห่าน และไก่ อยู่ที่ ต.บ้านเบิก อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี ผู้ที่เจอกับกระสือ กล่าวว่า เจอกระสือถึง 2 ครั้ง หนึ่งในนั้นเป็นช่วงตี 1 ถึง ตี 2 ของวันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้ยินเสียงหมาเห่า หมูร้อง เป็ด ไก่ ร้องลั่น จึงได้ออกมาดู ตอนแรกคิดว่าน่าจะเป็นงูเหลือมตัวใหญ่ ที่มักแอบย่องเข้ามารัดเอาเป็ดไก่ไปกินประจำ แต่ครั้งนี้กลับหาตัวการที่ทำให้สัตว์เลี้ยงร้องไม่เจอ จึงได้เดินมาบริเวณที่ทิ้งขี้หมู กลับเจอแสงไฟวับวาบ ตรงหน้าไม่ถึง 1 เมตร ใจแทบหล่น เพราะเจอกับกระสือตัวเป็นๆ แถมมันยังแยกเขี้ยว ทำหน้าหน้าทะมึนใส่ ท่าทางจะเอาเรื่อง จึงใช้เสียมด้ามยาวที่ติดมือมาเงื้อจะตี จนกระสือลอยหลบหนีไป
พอรุ่งเช้าไปเล่าให้ชาวบ้านฟัง ซึ่งสอดคล้องกับหลายๆ คนที่เจอ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ คืนต่อมาจึงได้นำเป็ดสดไปมัดไว้ที่ต้นไม้ รุ่งเช้าไปดูเครื่องในเป็ดหายไปหมด จึงเริ่มเชื่อว่ากระสือมีจริง ซึ่งผู้สื่อข่าวได้เอาภาพกระสือที่โพธิ์ตรุให้ดู ลุงวิเชียรถึงกับขนลุก พร้อมบอกใช่เลยๆๆ ผมเห็นหน้ามันจะๆ ชัดกว่านี้อีก
ลุงวิเชียร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้คาดว่ากระสือตัวดังกล่าว ยังคงวนเวียนอยู่ในพื้นที่หลายตำบลในคุ้งน้ำ บ้านสี่คลอง ท้ายตลาด โพธิ์ตรุ บ้านข่อย บ้านเบิก ซึ่งล้วนเจอมาแล้วหลายราย หลายตำบล คาดว่าหิว เพราะได้กลิ่นเหม็นสาบของเป็ดไก่ ห่าน ขี้หมู และกลิ่นคาวจากรกหมูที่เพิ่งคลอด ที่เขาล้างลงไปที่ทิ้งขี้หมู มันคงได้กลิ่นย่องมากินกลางดึก ตอนนี้กลางคืนลุงจะไม่นอน จะเฝ้าดูเพราะห่วงหมูเล็ก พร้อมลูกหลานที่อาสามานอนเฝ้าด้วย โดยได้ล้อมคอกหมูแรกเกิดรัดกุมไว้ก่อน พร้อมไก่ชนราคาแพง ถ้าไม่เจอกับตัวจะไม่เชื่อเด็ดขาดว่าสิ่งนี้มีจริงๆ
ผู้สื่อข่าวยังไปเจอชาวบ้านอีก 1 คน ที่เจอกระสือเช่นกัน ชื่อ นางสาวพรรณนิภา หรือ ปราง อยู่ที่หมู่ 10 ต.บ้านข่อย อ.เมืองลพบุรี กล่าวว่า เธอเจอกระสือวันที่ 19 กันยายน เวลาเกือบ 21.00 น. ตอนนั้นอยู่เป็นเพื่อนสามีกำลังไถนาหลังวัดข่อยเหนือ อ.เมืองลพบุรี ระหว่างที่ไถนาใกล้จะเสร็จ พบเห็นไฟสีแดงค่อยๆ ลอยเข้ามาใกล้ๆ โดยสะท้อนกับน้ำในแปลงนา ตอนแรกคิดว่าใครมาบินโดรน จึงไม่ได้สนใจ แต่ต้องตกใจแบบสุดขีด เมื่อดวงไฟมาถึงใกล้ตัว กลับเห็นมีหน้าคนอายุประมาณ 60 ปี ผมขาวยาวประบ่า จึงพยายามจะใช้โทรศัพท์ถ่ายคลิป แต่มือกลับไม่กด ทำให้ถ่ายไม่ได้ พอตั้งสติได้ จึงได้ถ่ายรูปเอาไว้ ก่อนเรียกแฟนให้มาดู และดวงไฟกระสือได้ลอยหายไป จึงชวนแฟนกลับบ้าน แต่ตลอดทั้งคืนก็นอนไม่หลับ แถมยังจับไข้ไป 1 วันเต็มๆ
ล่าสุด ว่าที่ร้อยตรีหญิงสาละวิน เหมือนเพชร รักษาราชการแทนนายอำเภอท่าวุ้ง ปลัดอำเภอท่าวุ้ง สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดเวรยามไปสอดส่องดูแลในจุดที่ชาวบ้านเจอกระสือ โดยจะเริ่มตั้งแต่คืนนี้เพื่อสร้างความอบอุ่นใจให้ชาวบ้านในพื้นที่
นันท์นภัส วงศ์ใหญ่
ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวภาค