เวลา 09.00 น. วันที่ 5 ต.ค. 66 พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต ผกก.สส.ภ.จว.สระแก้ว เผยว่า ตามนโยบายขยายผลและกวาดล้างเครือข่ายขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และขบวนการลักลอบนำเงินตราออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมายของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. โดย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2/รอง ผอ.ศปปง.ภ.2, พล.ต.ต.ณัฐพงษ์ สัตยานุรักษ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว และ พ.ต.อ.พัฒนชัย ภมรพิบูลย์ ผกก.สภ.คลองลึก ได้นำตำรวจ กก.สส.ภ.จว.สระแก้ว และตำรวจ สภ.คลองลึก ร่วมกันจับกุมตัว นายซารุน ลึม อายุ 41 ปี ชาวกรุงพนมเปญ พร้อมของกลางเงินสดสกุลไทยอยู่ในกระเป๋าเป้สะพาย จำนวน 13,500,000 บาท (สิบสามล้านห้าแสนบาท) แยกเป็นธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท เป็นปึก ปึกละ 100,000 บาท มัดรวมกันเป็นมัด มัดละ 1,000,000 บาท จำนวน 9 มัด รวมเป็นเงิน 9,0000,000 บาท และธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 500 บาท ปึกละ 50,000 บาท มัดรวมเป็นปึก ปึกละ 500,000 บาท จำนวน 9 มัด รวมเป็นเงิน 450,000 บาท รวมเป็นเงินสดไทยทั้งสิ้น จำนวน 13,500,000 บาท (สิบสามล้านห้าแสนบาท) ได้ที่บริเวณลานจอดรถใกล้ตลาดโรงเกลือ ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ขณะจะลักลอบนำเงินสดสกุลไทยออกไปประเทศกัมพูชา
จากการสอบถามเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นายซารุน ลึม อ้างว่า เป็นเงินของนายเพี๊ยะ ชาวกัมพูชาที่ว่าจ้างให้ตนมารับเงินจากคนไทยที่เป็นผู้เบิกเงินให้จากธนาคารต่างๆ โดยเริ่มทำมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 จะได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท โดยจะลักลอบนำเงินออกไปครั้งละประมาณ 10-20 ล้านบาท เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ เนื่องจากธนาคารปิดทำการ
ทั้งนี้ มีแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่อีกว่า มีอดีตผู้จัดการธนาคารรายหนึ่ง เป็นผู้รับจ้างจากนายเพี๊ยะ ชาวกัมพูชา ทำหน้าที่เป็นผู้ที่รับมอบอำนาจจากเจ้าของบัญชีม้าต่างๆ กว่า 10 บัญชี แล้วตระเวนทำธุรกรรมในการเบิกถอนเงินสดจากธนาคารเวียนไปในพื้นที่ตลาดโรงเกลือ และ อ.อรัญประเทศ จากนั้นนำเงินสดที่เบิกมาส่งให้นายซารุน ลึม แล้วนายซารุนจะลักลอบขนเงินข้ามประเทศออกไปฝั่งกัมพูชา เพื่อส่งให้นายทุนชาวจีนขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีกทอดหนึ่ง จึงได้แจ้งข้อกล่าวหานายซารุน ลึม ว่า พยายามนำหรือพาเงินตราที่เป็นของต้องจำกัดออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้องและฐานละเลยและฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดี เตรียมขยายผลทางบัญชีเพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องด้วย.