ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าที่วัดพระธรรมกาย ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กองร้อยควบคุมฝูงชนได้เคลื่อนกำลังเข้าพื้นที่เพิ่มเติมและประชิดแนวลูกศิษย์ โดยที่ยังมีลูกศิษย์และพระวัดพระธรรมกายปักหลักสวดมนต์อยู่บริเวณประตู 5 จำนวน 1,000 คน สร้างความเครียดให้ทั้งฝ่ายเจ้าหน้าที่และวัดพระธรรมกาย โดยมีการเปิดเครื่องเสียงประกาศใส่เจ้าหน้าที่ไม่ให้บุกเข้ามาในวัดพระธรรมกายอย่างต่อเนื่อง ส่วนทางเจ้าหน้าที่ได้มีการประกาศให้เวลาออกจากพื้นที่ภายใน 10 นาที
คสช.เรียก”ธัมมชโย”กับพระ14รูป รายงานตัว
เมื่อเวลา 17.00 น. เมื่อวันที่ 19 ก.พ.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทาง DSI ได้พยายามให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายออกจากวัด โดยจะตรวจสอบหนังสือ ใบสุทธิ ของพระภิกษุ รวมไปถึงการตรวจสอบผู้ที่พักอยู่ในเต็นท์ที่พักประตู 5 และ 6 ตลอดจนภายในวัด ตามบัญชีรายชื่อศิษยานุศิษย์และบุคคลที่วัดได้มอบให้กับ DSI ไว้ก่อนหน้านี้ หากพบว่าไม่มีรายชื่อก็จะต้องออกจากพื้นที่วัดจนเป็นเหตุให้ศิษย์และพระของวัดพระธรรมกายได้ฝ่าฝืนคำสั่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเสริมกำลัง
ต่อมา คำสั่งหัวหน้า คสช. ลงเมื่อวันที่ 19 ก.พ. 2560 ให้ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย รวมทั้งกลุ่มรองเจ้าอาวาส และผู้ช่วยเจ้าอาวาส ทั้ง พระทัตตชีโว, พระมหาสมชาย ฐานวุฑโฒ, พระปลัดสุธรรม สุธัมโม, พระครูถวัลย์ศักดิ์ ยติสโก, พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ , พระสนิทวงศ์ วุฑธวโส, พระมหานพพร ปุญญชโย, พระภาสุระ ทนตมโน , พระนภดล สิริวโส, พระมหาบุญชัย จารุทัตโต, พระครูสุวิทย์ สุวิชชาโภ , พระครูแสนพล เทพเทพา หรือสิบเอกแสนพล เทพเทพา รวม 14 รูป เข้ารายงานตัวกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายใน 18.00 น. วันนี้ ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หากฝ่าฝืน มีระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สาวกธรรมกายประกาศระดมพลสู้ ม.44
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก DSI ได้พยายามให้ศิษย์วัดพระธรรมกายที่นั่งสวดมนต์บริเวณนอกวัดประตู 5 และประตู 6 ปากซอยถนนเลียบคลองแอน และบนสะพานข้ามคลองแอนฝั่งประตู 5 ต่อมาลูกศิษย์ และพระได้กรูกันมาไปภายในวัดบริเวนประตู 5 อ้างว่าเพื่อจะมาสวดมนต์
เนื่องจาก DSI ได้แถลงว่าให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายออกจากวัด โดยจะตรวจสอบหนังสือ ใบสุทธิ ของพระภิกษุ รวมไปถึงการตรวจสอบผู้ที่พักอยู่ในเต็นท์ที่พักประตู 5 และ 6 ตลอดจนภายในวัด ตามบัญชีรายชื่อศิษยานุศิษย์และบุคคลที่วัดได้มอบให้กับ DSI ไว้ก่อนหน้านี้ หากพบว่าไม่มีรายชื่อก็จะต้องออกจากพื้นที่วัดภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้เช่นกัน เพื่อให้พระอยู่ภายในวัดธรรมกายเหลือเพียงพระของวัดพระธรรมกายเท่านั้น
ขณะเดียวกันได้มีความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊ก เรารักวัดพระธรรมกาย โดยมีข้อความว่า ด่วน ยืนยันแล้ว ทางคณะสงฆ์ทั้งภาคพื้นเอเชีย และทั่วโลก ขานรับการขอความช่วยเหลือจากวัดพระธรรมกาย ประกาศเจตนารมณ์ไม่ยอมรับ การประกาศใช้มาตรา 44 ของ คสช. ที่บังคับขู่เข็ญละเมิดสิทธิ์ ต่อพระสงฆ์ชาวพุทธ และสงฆ์ทุกนิกาย พร้อมเดินทางเข้าร่วมกดดัน หากมีการใช้กำลังกับวัดพระธรรมกาย เบื้องต้น คณะสงฆ์ทุกภาคของประเทศไทย รับฎีกา เข้าร่วมปฏิบัติการ ชวนญาติมิตร เข้ากรุงเทพ ปทุมธานี ภายใน 48 ชั่วโมง ประชาชนชาวพุทธ 5 แสนคนในเขตภาคกลาง เพื่อกดดันเรียกร้องให้ยกเลิก มาตร 44 กับวัดพระธรรมกาย ภายใน 24 ชั่วโมง ชาวพุทธทุกท่าน เวลาที่ท่านรอคอยมาถึงแล้ว
ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำสั่งจาก นายกรัฐมนตรีห้ามทำร้ายประชาชน และท่านอธิบดี dsi เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ หน้าที่ตำรวจตรวจสอบทุกตารางนิ้วที่อยู่ภายในวัด และส่วนภายในวัดนั้น ยังใช้มาตรการเดิมโดยการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ทางด้านพี่น้องประชาชนพร้อมกับพระภิกษุสงฆ์ยังไม่เข้าใจในด้านกฎหมาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามทำความเข้าใจข้อกฎหมาย ให้พี่น้องประชาชนและพระภิกษุสงฆ์ว่ารัฐบาล ต้องการอะไร และไม่ต้องการทำร้ายใคร แต่ในเมื่อประชาชนและพระภิกษุสงฆ์ไม่ยอมก็จะมีการกดดัน แต่ต้องรอการตัดสินใจของอธิบดี dsi ก่อน
พระ-ศิษย์ธรรมกายไม่สนเส้นตายฝ่าแนวป้องกันเข้าวัด
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 19 ก.พ. 60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก DSI ได้แถลงว่าให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกายออกจากวัด โดยจะตรวจสอบหนังสือ ใบสุทธิ ของพระภิกษุ รวมไปถึงการตรวจสอบผู้ที่พักอยู่ในเต็นท์ที่พักประตู 5 และ 6 ตลอดจนภายในวัด ตามบัญชีรายชื่อศิษยานุศิษย์และบุคคลที่วัดได้มอบให้กับ DSI ไว้ก่อนหน้านี้
หากพบว่าไม่มีรายชื่อก็จะต้องออกจากพื้นที่วัดภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้เช่นกัน เพื่อให้พระอยู่ภายในวัดธรรมกายเหลือเพียงพระของวัดพระธรรมกายเท่านั้น โดยยังมีศิษย์บางส่วนที่ไม่สามารถเข้าไปในวัดได้ ต้องอยู่ที่บริเวณประตู 5 และประตู 6 และมีศิษย์วัดหลายคนมานั่งสวดมนต์อยู่ที่ด้านหน้าร้านค้าบริเวณปากซอยถนนเลียบคลองแอน และบนสะพานข้ามคลองแอนฝั่งประตู 5 ต่อมาลูกศิษย์ และพระได้กรูกันมาถึงประตู 5 อ้างว่าเพื่อจะมาสวดมนต์ จากนั้นได้พากันเปิดทางเพื่อเข้าไปในวัดจำนวนกว่า 1,500 คน โดยเจ้าหน้าที่ไม่สามารถกันไว้ได้ เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้
ด้าน พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 ได้เดินทางมาเจรจากับศิษย์วัดพระธรรมกายและพระสงฆ์ที่เดินออกมาจากประตู 5 เป็นกำแพงมนุษย์ป้องกันเจ้าหน้าที่ เข้าไปภายในวัดอีก ทั้งนี้ พล.ต.ท.ชาญเทพ ได้พูดผ่านเครื่องขยายเสียงว่า ขอให้อยู่ในความสงบก่อน หากไม่อยู่ในความสงบแบบนี้ก็จะคุยกันไม่รู้เรื่อง และขอให้ทั้งศิษย์และพระสงฆ์กลับเข้าไปภายในวัดก่อน เพื่อที่จะเจรจาพูดคุยกัน เมื่อพวกท่านกลับเข้าไปภายในวัดแล้วเราก็จะไม่ไปยุ่งกับท่าน
วัดพระธรรมกายแถลงวอน คสช ยกเลิก ม.44 ของเข้าออกวัดได้เหมือนเดิม
วัดพระธรรมกายวอน คสช.ยกเลิก ม.44 เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่19 ก.พ. 60 พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส อำนวยการสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประตู 7 ฝั่งถนนบางขันธ์-หนองเสือ ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
จากคำสั่งคณะ คสช ใช้มาตรา 44 นั้น ทำให้พระสงฆ์ที่อยู่ ภายในวัดและจะออกไป สอบภาษาบาลี ในวันที่ 21 ก.พ.60 เกรงว่าจะเข้ามาภายในวัดอีกไม่ได้ และศิษยานุศิษย์ ที่อยู่ด้านนอก และที่ดู ข่าวอยู่ทางบ้าน ต่างก็เป็นห่วง ว่าลูกหลานของตนเองที่นำมาบวชที่วัดพระธรรมกาย จะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร เพราะคดีของหลวงพ่อ ธัมมชโยนั้น มีอาการอาพาธและเข้าพบพนักงานสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ dsi ไม่ได้จึงถูกออกหมายจับ ถือว่าไม่เป็นธรรม กลับหลวงพ่อธัมมชโย ซึ่งขณะนี้ภายในวัดอยู่กันด้วยความลำบาก จึงอยากให้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ยกเลิกมาตรา44 และให้ประชาชนพร้อมทั้งศิษยานุศิษย์เข้าออกวัดพระธรรมกายได้เหมือนเดิม
ด้านพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส อำนวยการสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ได้กล่าวว่า จากคำสั่งคณะ คสช ใช้มาตรา 44 นั้น อยากให้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ยกเลิกมาตรา44 และให้ประชาชนพร้อมทั้งศิษย์ยานุศิษย์เข้าออกวัดพระธรรมกายได้เหมือนเดิม เนื่องจาก
1.ที่ผ่านมา 3 วัน ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจค้นอย่างละเอียดทุกอาคาร ทุกชั้น ทุกห้อง ทั้งพื้นที่เป้าหมายทุกจุดและอาคารต่างๆ รวมทั้ง พื้นที่รอบนอกวัด และได้นำสกอตช์เทปสีแดง ที่มีโลโก้ดีเอสไอ ซีลที่ประตูทางเข้าอาคารสำนักงานและอาคารบริเวณรอบๆ และอาคารดาวดึงส์ รวม 15 หลัง ซึ่งทางวัดได้อำนวยความสะดวกทุกประการด้วยความเรียบร้อยดี
2.กรณีญาติโยมยังอยู่กันมากและไม่ได้กลับออกไป ไม่ใช่เพราะประเด็นของหลวงพ่อธัมมชโย แต่เพราะห่วงพระลูกพระหลานในวัด เพราะญาติโยมเหล่านี้เป็นโยมพ่อแม่ ปู่ย่าตายายของพระเณร จึงมาดูแลด้วยความเป็นห่วง และสวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา รวมทั้ง เป็นห่วงวัดและทรัพย์สินของวัด เนื่องจากมีข่าวจากโซเชียลเน็ตเวิร์กแพร่หลายว่า อาจมีการเข้ามายึดทรัพย์สินของวัด ยึดรูปเหมือนทองคำหลวงปู่วัดปากน้ำ ยึดอาคารสถานที่ของวัดไปทำเป็นที่ทำงานของเจ้าหน้าที่ นำของผิดกฏหมาย เช่น อาวุธ ยาเสพติด มายัดเยียดแล้วใส่ร้ายพระและวัด ฯลฯ โดยเฉพาะวันที่ 2 ของการตรวจค้น เจ้าหน้าที่มาเต็มอัตรา ทั้งรถตู้ รถบัส หลายสิบคัน สร้างความตื่นตระหนักอย่างมากให้กับสาธุชนที่มาปฏิบัติธรรม ซึ่งทางวัดไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในรถได้ รวมทั้ง การนำสุนัขตำรวจเข้ามาด้วยก็ยิ่งไม่สบายใจ ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า เจ้าหน้าที่จะเป็นคนทำเรื่องไม่ดีดังกล่าว แต่ข่าวลือผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทำให้ทุกคนหวาดระแวงไปหมดในทุกเรื่อง จึงขอได้โปรดเห็นใจพระเณรและญาติโยมด้วย
3.ขอความกรุณา คสช. และรัฐบาล ยกเลิก ม.44 เพราะพระภิกษุสามเณร ได้รับความลำบากในการบิณฑบาต และบำเพ็ญสมณะกิจอื่นๆ และเนื่องจากมีการสับเปลี่ยนกำลังของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา บางครั้งข้อมูลสื่อสารไม่ถึงกัน พระเณรออกไปงานศพญาตินอกวัด ก็ไม่สามารถกลับเข้าวัดได้
4.วันที่ 21-23 ก.พ. 2560 ที่จะถึงนี้ เป็นการสอบพระบาลีของพระภิกษุสามเณรทั่วประเทศ โดยพระภิกษุสามเณรของวัดหลายร้อยรูปต้องออกไปสอบพระบาลี ขอความกรุณาเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้สามารถสอบได้ หรือขอความเมตตาไปยังการคณะสงฆ์และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดส่งตัวแทนเจ้าหน้าที่ผู้คุมสอบจากมหาเถรสมาคม เข้ามาจัดสนามสอบภายในวัดพระธรรมกาย เพราะสามเณร คือเยาวชนที่ดีของชาติ มาศึกษาเล่าเรียนเพื่อพัฒนาตนเอง ไม่ได้ทำร้ายสังคม ไม่เป็นภาระของชาติ แต่ช่วยให้การสืบสานวัฒนธรรมไทยและสืบอายุพระพุทธศาสนาต่อไปในอนาคตอีกด้วย
5.มีข่าวจากสื่อมวลชนว่า จะมีการตัดน้ำตัดไฟวัด ทางวัดขอความเห็นใจว่า จะสร้างความเดือดร้อนให้พระภิกษุสามเณรที่บำเพ็ญสมณกิจ รวมทั้งญาติโยมที่มาปฏิบัติธรรมจำนวนมาก ขอความกรุณาอย่าใช้มาตรการนี้ เพราะไม่สมเหตุสมผล ที่ผ่านทางวัดเองก็ให้ความร่วมมือด้วยดีเสมอมา.