เจ้าหน้าที่รวมพลกว่า 3,600 นาย ปิดล้อมวัดพระธรรมกาย หลัง คสช. ประกาศมาตรา 44 ให้วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุม ขณะที่ ดีเอสไอ แถลงจำเป็นต้องปฏิบัติการเพื่อนำตัว พระธัมมชโย มาดำเนินคดี ล่าสุดปิดทุกประตูวัดพระธรรมกายไม่ให้พระ-ลูกศิษย์ผ่านเข้าออก
วันนี้ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ภายหลังจากที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ได้ประกาศใช้มาตรา 44 ให้วัดพระธรรมกาย เป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ เพื่อเข้าจับกุมและดำเนินคดีกับ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ซึ่งถูกดำเนินคดีหลายข้อหา เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังทหาร ตำรวจ และดีเอสไอ เข้าตรึงกำลังตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาโดยเป็นไปตามคำสั่งของ คสช. ที่ให้อำนาจตามมาตรา 44
บรรยากาศในช่วงเช้าที่บริเวณประตู 7 วัดพระธรรมกาย เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าติดต่อกับตัวแทนวัดเพื่อขอเข้าปฏิบัติการตรวจค้นภายในวัด จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 07.30 น. พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล รองอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วย พ.ต.ท. ประวุฒิ วงศ์สีนิล ผู้บัญชาการสำนักคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และ ร.ต.อ. เอกธรรศ์ เลาห์ทวี รองผู้บัญชาการสำนักปฎิบัติการพิเศษ ได้เข้าไปภายในวัดพระธรรมกาย ผ่านทางประตู 7 หลังพระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ยอมให้เข้าไปเจรจาภายในวัด โดยไม่อนุญาตบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องติดตามเข้าไปด้านใน โดยมีคณะลูกศิษย์จำนวนหนึ่งสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าเดินตามตลอดเวลา
โดยด้านหน้าประตู 7 วัดพระธรรมกายนั้น มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจากตำรวจภูธรภาค 1 และ 7 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และราชบุรี สนธิกำลัง 3 กองร้อย ตรึงกำลังเตรียมพร้อมปฎิบัติการทันที ขณะที่บริเวณถนนคลองหลวงยังคงปิดการจราจรโดยรอบวัดพระธรรมกายโดยมีการตั้งด่านตรวจรอบพื้นที่ สำหรับที่ประตู 8 มีกำลังทหาร ตำรวจ ยังคงตรึงกำลังอยู่ด้านหน้า
ต่อมา พล.ต.ต. สมบัติ มิลินทจินดา รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ได้เดินทางมาดูแลตรวจสอบความเรียบร้อยที่บริเวณประตู 5 และประตู 6 โดยขณะนี้ได้ทำการขอรถพยาบาล และรถสุขา มายังจุดนี้ พร้อมสั่งให้เตรียมกำลังเพื่อรอรับคำสั่งจาก พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อีกครั้งก่อนเตรียมไปตรวจความเรียบร้อยยังจุดอื่น ๆ ต่อไป
และเพื่อความปลอดภัยทางดีเอสไอจะช่วยดูแลศิษย์ยานุศิษย์ของวัดพระธรรมกายด้วย เพราะวัดพระธรรมกายมีความกังวลว่าจะมีบุคคลซึ่งเป็นมือที่ 3 ปะปนอยู่ในวัดเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่ายทางเจ้าหน้าที่จะร่วมมือการเป็นผู้ตรวจสอบและคัดแยกให้ โดยจะมีการตรวจสอบบัตรประชาชนของศิษย์ยานุศิษย์ ซึ่งเป็นเพียงเครื่องมือเบื้องต้นในการพิสูจน์ตัวตนและคัดกรองคนที่บริสุทธิ์และผู้ไม่หวังดีออกจากกันเท่านั้น
สำหรับบรรยากาศโดยรอบของวัดนั้นเหล่าศิษยานุศิษย์ของวัดยังคงนั่งสวดมนต์ทั้งในวัดและนอกวัด โดยศิษยานุศิษย์ที่อยู่นอกวัดเป็นส่วนที่ถูกเจ้าหน้าที่กันไม่ให้เข้าพื้นที่ จึงปูเสื่อ นั่งสวดมนต์ท่ามกลางแดดที่ร้อนจ้า โดยศิษยานุศิษย์บางส่วนได้มีการพูดคุยกันว่า จากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเพื่อตรวจในครั้งนี้ ทำให้ศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย รักและสามัคคีมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรจะภาคภูมิใจ
ทั้งนี้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศให้พื้นที่วัดพระธรรมกายเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษตามมาตรา 44 ทางดีเอสไอได้เปิดเผยเอกสารข้อมูลที่ระบุถึงความผิดโดยการต่อสู้หรือขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ด้วยการนั่งขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงานหรือมีการนำสิ่งของมากีดขวางถนน เพื่อมิให้เจ้าพนักงานดำเนินการได้สะดวก มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนการต่อสู้หรือขัดขวางโดยใช้กำลังทำร้ายหรือขู่ว่าจะทำร้าย โดยการกอด ดึง รั้ง ไม่ให้เจ้าพนักงานปฏิบัติงาน หรือมีการใช้เลเซอร์ยิงใส่อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนของเจ้าพนักงาน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับการดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกายเจ้าหน้าที่จะดำเนินการโดยปราศจากอาวุธ และความรุนแรงมีการอธิบายเหตุผล ขั้นตอนกับศิษยานุศิษย์ พร้อมทั้งแสดงหมายค้นเข้าตรวจค้นซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบพระธัมมชโย จะปฏิบัติ 6 ขั้นตอน คือ แสดงหมายศาลแจ้งสิทธิตามกฎหมาย แจ้งข้อเท็จจริง แจ้งข้อกล่าวหา ถามคำให้การ และเชิญตัวออกมาอย่างสุภาพเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
จากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. พระมหานพพร ปุญญาชโย ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับทางดีเอสไอในรายละเอียดขั้นตอนการเข้าไปในวัด และการกำหนดจุดเข้าพื้นที่ต่าง ๆ และยืนยันว่าวัดให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขณะนี้การเจรจาคืบหน้าไปมาก แต่ยังคุยกันในรายละเอียดก่อนที่จะให้เจ้าตรวจค้น เพื่อที่จะกำหนดรายละเอียดเป็นข้อ ๆ ตามที่ดีเอสไอชี้แจงมาตามเอกสาร ซึ่งขณะนี้ได้นำผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมพูดคุยด้วย โดยล่าสุดได้นำพระเทพรัตนสุธี เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี เข้าไปร่วมหารือด้วย