“พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ปัด เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่แค่ชั่วคราว เพื่อรอคำตัดสินศาล ชี้ ทุกคนต้องพร้อมเป็นตัวจริง ไม่กังวลกระแสพรรคลดลง แจงยังคุย “ปิยบุตร” เพราะเป็นเพื่อนกัน ไม่หวั่นเสียมวลชน นึกถึงความรู้สึกคนในพรรค-ปิยบุตร เป็นสิ่งสำคัญ
วันที่ 23 กันยายน 2566 เมื่อเวลา 09.15 น. นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ รักษาการหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคก้าวไกล เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่
โดยนายพิธา กล่าวว่า วาระสำคัญในวันนี้ภาพรวมจะเป็นการปรับองค์กรเพื่อที่จะเดินหน้าต่อไป มีทั้งในเรื่องของบุคลากรและการปรับระเบียบข้อบังคับเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันในการก้าวต่อไปในอนาคต ส่วนผู้ที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคแทนนั้น ไม่ได้คาดหวังเพราะคนที่เป็นหัวหน้าต่อไป ไม่ได้เป็นเรื่องบุคคล แต่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนรวม
เมื่อถามว่า มีกระแสว่า คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นเพียงชั่วคราว เพื่อรอคำตัดสินของศาล และให้นายพิธา กลับมาเป็นหัวหน้าพรรคเหมือนเดิม นายพิธา กล่าวว่า ใครจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค มองว่า เป็นความท้าทายทุกวัน ทุกอาทิตย์ ทุกเดือน เพราะฉะนั้นเขาต้องพร้อมเป็นหัวหน้าพรรคและเลขาฯ พรรคตัวจริง พร้อมย้ำว่า ไม่มีความกังวลถึงกระแสพรรค แม้จะมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เพราะทุกอย่างยังเหมือนเดิม และต้องคิดถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว และเปิดทางให้มีผู้นำที่ใฝ่ฝัน ไม่ว่าจะเชิงมหภาคและจุลภาค
ส่วนที่จะมีการแต่งตั้งตำแหน่งพิเศษให้นายพิธา เป็นผู้นำพรรค นายพิธา บอกว่า ต้องรอดูผลการประชุม แต่ตนพร้อมที่จะทำงานเพื่อพรรคก้าวไกลในทุกบทบาทหรือไม่มีตำแหน่งก็ยังทำงานต่อเหมือนเดิม
เมื่อถามถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ที่ประกาศว่าจะไม่แสดงความเห็นเกี่บวกับพรรคก้าวไกลอีก กลัวว่าจะทำให้เสียมวลชนหรือไม่ นายพิธา บอกว่า ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องที่จะต้องเสียมวลชนหรือไม่ได้เสียมวลชน แต่สิ่งสำคัญคือการคำนึงถึงความรู้สึกของคนในพรรค รวมถึง นายปิยบุตร ย้ำว่า ตนนึกถึงนายปิยบุตรตลอด ตั้งแต่เริ่มตั้งพรรคอนาคตใหม่ กระทั่งมาเป็นผู้ช่วยหาเสียงถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ย้ำว่ายังคิดถึงนายปิยบุตรเสมอและเชื่อว่าพวกเราก็ยังคิดถึงนายปิยบุตรทุกคน รวมถึงกรรมการบริหารพรรคที่ถูกตัดสิทธิ์ไปในช่วงพรรคอนาคตใหม่ด้วยเหมือนกัน พร้อมย้ำว่า ตนยังพูดคุยกับนายปิยบุตรอยู่เรื่อยๆ ในกรอบที่กฎหมายอนุญาต แต่ถึงอย่างไรก็เป็นเพื่อนกัน
เมื่อถามถึงว่า การปฏิบัติของราชทัณฑ์มีความเป็น 2 มาตรฐาน พรรคก้าวไกลจะมีการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไร นายพิธา ตอบว่า ตนเองไม่ได้ตามเรื่องนี้ แต่เท่าที่ทราบ ทางพรรคก้าวไกล มีการพูดคุยถึงเรื่อง พ.ร.บ.การนิรโทษกรรม เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นบรรทัดฐาน ซึ่งตอนนี้สมาชิกพรรค และผู้ที่เกี่ยวข้องกำลังเตรียมข้อมูล เพื่อเตรียมยื่นกฎหมายนี้ เข้าสู่รัฐสภา
เมื่อถามว่ากรณีที่นายพิธา ไปพบทูตจีนและทูตสหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันกับที่นายกรัฐมนตรีไปร่วมประชุมกับ UN การทำแบบนี้เท่ากับเป็นนายกฯ เงาหรือไม่ นายพิธา หัวเราะ ก่อนจะตอบว่า คงไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายกฯ เงา แต่เนื่องจากเป็นวันชาติจีน ตนจึงไม่สามารถเลือกวันที่จะพบกับท่านทูตได้ เพราะเป็นวันชาติของเขา
ส่วนทูตสหรัฐฯ มีการนัดหมายกันมานานแล้ว แต่ตนติดภารกิจเลือกตั้งซ่อมระยอง หลังจบภารกิจก็ได้เข้าพบกับท่านทูตสหรัฐฯ ตามที่ได้นัดกันไว้