คสช.แก้ไขกฎหมายตั้งตำรวจใหม่ เพิ่มปลัดกลาโหมใน ก.ต.ช. พร้อมปรับสัดส่วน ก.ตร.ใหม่
ให้กรรมการเก่าทั้งสองชุดพ้นตำแหน่ง
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 88/2557 เรื่องการแก้ไข
เพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติ โดยมีรายละเอียดดังนี้
โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยตำรวจแห่งชาติเพื่อปรับปรุงระบบการบริหารงาน
บุคคลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เกิดประสิทธิภาพมีความคล่องตัวในการปฏิบัติหน้าที่มากยิ่งขึ้น
รวมทั้งเสริมสร้างความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานที่รับผิดชอบในด้านความมั่นคง และการอำนวย
ความยุติธรรม อันจะส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดูแลรักษาความสงบ
เรียบร้อย ความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนการอำนวยความยุติธรรมให้แก่
ประชาชนโดยส่วนรวม คสช.จึงมีประกาศดังต่อไปนี้
ข้อ1 ให้ยกเลิกความในมาตรา 17 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา17 ให้ ก.ต.ช. (คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ) ประกอบด้วย
(1)นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ
(2)รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ
(3)ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม
และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง
(4)กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งได้รับการเลือกจากวุฒิสภาจำนวนสองคนให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เป็นกรรมการและเลขานุการ และให้ประธานกรรมการโดยคำแนะนำของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
แต่งตั้งข้าราชการตำรวจยศพลตำรวจตรีขึ้นไปจำนวนไม่เกินสองคนเป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ข้อ2 ให้ยกเลิกความใน (3) ของมาตรา18 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(3)พิจารณาดำเนินการคัดเลือกข้าราชการตำรวจเพื่อดำเนินการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสนอ”
ข้อ3 ให้ยกเลิกความในมาตรา 30 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา30 ให้มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจคณะหนึ่ง เรียกโดยย่อว่า “ก.ตร.” ประกอบด้วย
(1)นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ
(2)ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นรองประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ
(3)เลขาธิการ ก.พ. จเรตำรวจแห่งชาติ และรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการ
ข้าราชการตำรวจโดยตำแหน่ง
(4)กรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากวุฒิสภาจำนวนสองคน
ให้ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นเลขานุการ และรองผู้บัญชาการ
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเป็นผู้ช่วยเลขานุการ”
ข้อ4 ให้ยกเลิกความใน (1) ของมาตรา 53 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547
และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“(1) การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 44
(1) ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคัดเลือกรายชื่อข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งจเรตำรวจ
แห่งชาติหรือรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แล้วเสนอ ก.ต.ช. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ
ก่อนแล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง”
ข้อ5 ให้ยกเลิกความในมาตรา 54 แห่งพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา54 การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตั้งแต่มาตรา 44(5)ลงมา ให้เป็นไป
ตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1)การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 44 (5) และ (6) ให้ดำเนินการดังนี้
(ก)ในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คัดเลือกรายชื่อข้าราชการ
ตำรวจในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน
แล้วให้นายกฯนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
(ข)ในกองบัญชาการที่มิได้สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ผู้บัญชาการคัดเลือก
รายชื่อข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการนั้นเสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาเสนอ
ก.ตร. ให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้นายกรัฐมนตรีนำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯแต่งตั้ง
(2)การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา44(7) และ (8) ให้ดำเนินการดังนี้
(ก)ในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคัดเลือกรายชื่อ
ข้าราชการตำรวจในสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสนอ ก.ตร. เพื่อพิจารณาให้ความ
เห็นชอบก่อน แล้วให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง
(ข)ในกองบัญชาการที่มิได้สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ผู้บัญชาการคัดเลือก
รายชื่อข้าราชการตำรวจในกองบัญชาการนั้น เสนอผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเพื่อพิจารณาเสนอ
ก.ตร. ให้ความเห็นชอบก่อน แล้วให้ผู้บัญชาการเป้นผู้ออกคำสั่งแต่งตั้ง
(3)การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งตามมาตรา 44(9) ลงมาในสำนักงานผู้บัญชาการ
ตำรวจแห่งชาติให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง ส่วนในกองบัญชาการที่มิได้สังกัด
สำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ผู้บัญชาการเป็นผู้สั่งแต่งตั้ง
ในกรณีที่เป็นการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจให้ดำรงตำแหน่งจากส่วนราชการหนึ่งไปอีกส่วนราชการ
หนึ่งให้หัวหน้าส่วนราชการทำความตกลงกัน แล้วให้หัวหน้าส่วนราชการที่จะประสงค์จะแต่งตั้ง
เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการตาม (1) (2) หรือ (3) แล้วแต่กรณี”
ข้อ6 ให้ยกเลิกความในมาตรา 33 ถึงมาตรา41 มาตรา55 และมาตรา57 วรรคสองและวรรคสาม
แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547
ข้อ7ให้ ก.ต.ช. และ ก.ตร. ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่ประกาศนี้ใช้บังคับพ้นจากตำแหน่ง
ข้อ8 ในระหว่างที่ยังไม่มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา 17 (4) ให้ ก.ต.ช. ประกอบด้วย
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมายเป็น
รองประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงยุติธรรม
และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เป็นกรรมการโดยตำแหน่ง และให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เป็นกรรมการและเลขานุการ
ข้อ9 ในระหว่างที่ยังไม่มีกรรมการข้าราชการตำรวจผู้ทรงคุณวุฒิตามมาตรา30 (4) ให้ก.ตร.
ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
เป็นรองประธานกรรมการข้าราชการตำรวจ เลขาธิการ ก.พ. จเรตำรวจแห่งชาติ และ
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นกรรมการข้าราชการตำรวจโดยตำแหน่ง
ข้อ10 การใดอยู่ในระหว่างการดำเนินการตามพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ก่อนวันที่
ประกาศนี้ใช้บังคับ แต่การดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จให้ ก.ต.ช. ตามข้อ1 หรื ก.ตร.
ตามข้อ3 แล้วแต่กรณีพิจารณาดำเนินการตามสมควร