ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 13 กันยายน 2566 : นาย เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมด้วย นาย โบ๊ท วิบูลย์นันท์ รองหัวหน้าอาสาสมัคร,เจ้าหน้าที่ฯ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู นำรถออฟโรสลำเลียงเครื่องอุปโภค-บริโภค และผ้าห่ม กว่า 200 ชุด เดินทางจากสำนักงานใหญ่มูลนิธิร่วมกตัญญู จังหวัดสมุทรปราการ พากันลุยขึ้นดอยไปที่ โรงเรียนบ้านแม่ตอละ ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อนำเครื่องอุปโภค-บริโภคและผ้าห่มไป มอบแจกจ่ายให้กับชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงโป ในชุมชนบ้านแม่ตอละและโรงเรียนบ้านแม่ตอละรวมกว่า 140 ชุด แต่กว่าที่เจ้าหน้าที่จะเดินทางไปถึงที่ชุมชนแห่งนี้ซึ่งอยู่บนดอยสูงของแม่ฮ่องสอน ทำให้การเดินทางค่อนข้างยากลำบาก บางจุดถึงออฟโรสของเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูถึงกับลื่นดินโคลนจนตกร่องถนน ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาตลอดเส้นทาง การเดินทางใช้ระยะเวลาราว 4 ชั่วโมงกับระยะทางเพียงแค่ 70 กิโลเมตรจากตัวอำเภอสบเมย ซึ่งการเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านและเด็กๆในพื้นที่ของมูลนิร่วมกตัญญูครั้งนี้สร้างความดีใจต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และนอกจากจะมอบถุงยังชีพ ผ้าห่มแล้ว คุณไทด์ เอกพันธ์ ยังควักเงินสดส่วนตัวมอบค่าขนมให้กับเด็กๆคนละ 100 บาทจำนวน 77 คน,คุณครูจำนวน 11 คนๆละ 500 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ นอกจากนั้นระหว่างทาง ทางคณะยังแวะไปยังโรงเรียนเลโคะ มอบเงินให้กับเด็กๆ จำนวน 59 คน พร้อมกับขนม จากนั้นเข้าไปมอบถุงยังชีพให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวณชายแดนที่ค่าย ตชด.337 จำนวน 30 ชุด
ครูทราย หนึ่งในคุณครูของโรงเรียนแห่งนี้ ให้สัมภาษณ์ระบุว่าต้องขอบคุณสำหรับมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เห็นถึงความเดือดร้อนของเด็กๆและชาวเขาในชุมชนและเดินทางมาช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งนอกจากจะได้กำลังใจจากคนต่างถิ่นแล้ว สิ่งของที่ได้รับมอบในครั้งนี้จะสามารถทำให้นักเรียนและชาวเขากระเหรี่ยงนี้ได้มีข้าวสารอาหารแห้งไว้บริโภคในครอบครัวได้อีกหลายวัน
ด้าน คุณไทด์ และคุณโบ๊ท กล่าวว่า หลังจากที่ชุมชนและโรงเรียนแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากวาตภัยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกทั้งในพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบจากพายุฝนตกต่อเนื่องจนทำให้การเดินทางเข้าออกของหมู่บ้านถูกตัดขาด ถนนสายหลักที่จะเข้าออกชุมชนแห่งนี้ถูกน้ำกัดเซาะและมีดินสไลด์ขวางเส้นทาง บางจุดถนนเละจนรถธรรมดาไม่สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ต้องใช้รถโฟรวีลหรือรถออฟโรสยกสูงเท่านั้น ทำให้ชาวเขาจำนวนมากทั้งคนแก่และเด็กนักเรียนขาดแคลนอาหารในการดำรงชีพ จึงมีการร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิร่วมกตัญญูเข้ามา ทางประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู โดย ดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง,คุณสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผู้จัดการมูลนิธิร่วมกตัญญู,คุณ บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์,ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ ได้สั่งแพคถุงยังชีพและระดมทีมกู้ภัยออฟโรสของอาสาสมัครและมูลนิธิร่วมกตัญญู ลำเลียงสิ่งของขึ้นมาช่วยเหลือชาวบ้านในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าการเดินทางจะมหาโหดตลอดเส้นทางขึ้นเขานั้น แต่พอมาถึงได้เห็นรอยยิ้มของเด็กๆ และคนในชุมชน พวกเราก็หายเหนื่อยและรู้สึกดีใจที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งชุมชนและโรงเรียนแห่งนี้ พอเข้ามาสัมผัสแล้วจะยิ่งน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก นอกจากจะอยู่ในถิ่นธุรกันดารแล้ว ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ มีเพียงแผงโซล่าเซลไม่กี่แผงซึ่งก็ไม่เพียงพอต่อการผลิตไฟ ทำให้เด็กๆยังขาดสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยอีกมาก จึงฝากเป็นสะพานบุญไปยังทุกภาคส่วนที่อยากเข้ามาช่วยเหลือลองนึกถึงโรงเรียนแห่งนี้
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน