วันที่ 7 ก.ย.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนตำแหน่ง และเงินอื่น ๆ ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2566 ลงนามโดย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า โดยที่คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 14 มี.ค.2566 ได้มีมติให้ปรับเพิ่มอัตราเงินตอบแทนตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ สังคม ค่าครองชีพและทัดเทียมกับค่าตอบแทนของเจ้าหน้าที่รัฐอื่น ๆ รวมทั้งสมาชิกสภาองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เดียวกันด้วย
อาศัยอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กระทรวงมหาดไทย ด้วยความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1.ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนตำแหน่งและเงินอื่น ๆ ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครองและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2566”
ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป
ข้อ 3 ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครองและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับได้รับเงินตอบแทนตำแหน่งเพิ่มไปรวมกับอัตราเงินตอบแทนตำแหน่งที่รับอยู่ในวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับของแต่ละตำแหน่ง เป็นอัตราเงินตอบแทนตำแหน่งใหม่ ดังนี้
- (1) กำนัน ให้ได้รับเพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท
- (2) ผู้ใหญ่บ้าน ให้ได้รับเพิ่มอีกคนละ 2,000 บาท
- (3) แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ ให้ได้รับเพิ่มอีกคนละ 1,000 บาท
ทั้งนี้ อัตราเงินตอบแทนตำแหน่งใหม่แต่ละคนตามวรรคหนึ่งจะต้องไม่เกินอัตราขั้นสูงของแต่ละตำแหน่งตามบัญชีเงินตอบแทนขั้นต่ำขั้นสูงท้ายระเบียบนี้ตามข้อ 4 วรรคหนึ่ง ของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินตอบแทนตำแหน่ง และเงินอื่น ๆ ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านแพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบนี้(ดูตาราง)
และให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาการตามระเบียบนี้ ให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาในการปฏิบัติตามระเบียบนี้ได้