นักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งในประเทศแคนาดา ถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯตั้งข้อกล่าวหา ว่าขโมยข้อมูล
อากาศยานของกองทัพสหรัฐฯ จากระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท โบอิ้ง..
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 13 ก.ค. ว่า นาย ซู บิน นักธุรกิจชาวจีนคนหนึ่งในประเทศแคนาดา
ถูกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯตั้งข้อกล่าวหา ว่าแฮกเจาะเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท ‘โบอิ้ง’
และขโมยข้อมูลเกี่ยวกับอากาศยานกองทัพและอาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐฯไป
จากการเปิดเผยของสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) ของสหรัฐฯ นายซู บิน เจ้าของบริษัทเทคโนโลยี
อากาศยานในจีน และมีสำนักงานในแคนาดา ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. โดยเขาใช้เวลาตั้งแต่เดือนม.ค.
2010 เพื่อจารกรรมข้อมูลจากโบอิ้ง และร่วมมือกับผู้ติดต่อในประเทศจีน เพื่อขายข้อมูลเหล่านั้น
แก่บริษัทในจีน
เอกสารฟ้องร้องนายซู ซึ่งได้รับการเปิดเผยเมื่อวนที่ 10 ก.ค. ระบุว่า นายซูสมรู้ร่วมคิดกับพวก จารกรรม
ข้อมูลจากโบอิ้งถึง 65 กิกะไบต์ โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องบินลำเลียง ‘ซี-17’ นอกจากนี้ยังมีข้อมูล
เกี่ยวกับอากาศยานอื่นๆ รวมถึงเครื่องบินขับไล่ ‘เอฟ-22’ และ ‘เอฟ-35’ ของบริษัท ‘ล็อกฮีด มาร์ติน’ ด้วย
แต่เอกสารไม่ระบุว่าเขาใช้วิธีใดในการจารกรรม
ทั้งนี้ ไม่พบหลักฐานว่ารัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ขณะที่สหรัฐฯกำลังดำเนิน
การเพื่อขอให้แคนาดาส่งตัวนายซู มาดำเนินคดีในสหรัฐฯ ซึ่งตั้งข้อหานายซูฐานเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์
โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯพยายามอย่างหนักในการรับมือกับเหล่าอาชญากรไซเบอร์
โดยเฉพาะแฮกเกอร์ที่สหรัฐฯกล่าวหาว่าอยู่ในจีน โดยเมื่อเดือนพ.ค. กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯกล่าวหา
เจ้าหน้าทกองทัพจีน 5 นาย ว่าแฮกระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท ‘เวสติงเฮาส์ อิเล็กทริก’, ยูเอส สตีล
คอร์เปอเรชัน และอื่นๆ.