เป็นอีกหนึ่งไอดอลเกาหลี ที่ผูกพันกับประเทศไทย สำหรับ ฮัม อึนจอง แห่งวง “ที-อารา” ที่ตอนนี้กำลังมีผลงาน “มายด์ เมมโมรี่ 1.44 พื้นที่รัก” จากค่าย เฟฮู อินฟินิตี้ จำกัด ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก แนวรักโรแมนติก คู่กับพระเอกฮอตของเมืองไทย อย่าง เจมส์ มาร์
เป็นอีกหนึ่งไอดอลเกาหลี ที่ผูกพันกับประเทศไทย สำหรับ ฮัม อึนจอง แห่งวง “ที-อารา” ที่ตอนนี้กำลังมีผลงาน “มายด์ เมมโมรี่ 1.44 พื้นที่รัก” จากค่าย เฟฮู อินฟินิตี้ จำกัด ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก แนวรักโรแมนติก คู่กับพระเอกฮอตของเมืองไทย อย่าง เจมส์ มาร์ โดยก่อนหน้านี้สาวอึนจองยังได้เดินทางมาถวายสักการะ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมเป็นจิตอาสาแจกอาหารให้ประชาชน ที่ท้องสนามหลวง ด้วย ล่าสุดอึนจองได้มาเยี่ยมทีมบันเทิงเดลินิวส์ “ฮานึล” เลยไม่พลาดพูดคุยถึงผลงานใหม่ รวมไปถึงเรื่องราวประทับใจในเรื่องไทย และแง่มุมต่าง ๆ ในชีวิตของเธอมาฝากแฟน ๆ กัน
ถามถึงความรู้สึกที่ได้มาแสดงใน “มายด์ เมมโมรี่ 1.44 พื้นที่รัก” หน่อย?
“ตอนแรกฉันมีความสนใจในหนังไทยอยู่แล้ว เลยดีใจมากค่ะที่ได้มาแสดงหนังที่นี่ซึ่งเป็นเกียรติมาก ๆ ที่มาแสดงเรื่องนี้ และยังเป็นหนังเรื่องแรก ที่ฉันมาถ่ายทำที่ต่างประเทศด้วย เรามาถ่ายทำที่ประเทศไทยค่อนข้างนานเหมือนกัน เพราะฉันมีตารางงานที่เกาหลีด้วย เลยไม่สามารถจัดตารางมาที่ไทยนาน ๆ ได้ ต้องมาเป็นช่วง ๆ ซึ่งพอเพื่อน ๆ ในวงที-อารา รู้ว่าฉันมาแสดงที่ไทย ก็ส่งใจเชียร์มาให้ด้วยค่ะ”
มาร่วมงานกับทีมงานไทย ต้องปรับตัวตรงไหนบ้างมั้ย?
“เนื่องจากวัฒนธรรมและภาษาเราต่างกัน ฉันเลยพยายามเรียนรู้สิ่งที่แตกต่างทุกอย่าง พยายามตามคนอื่นให้ได้ แต่ก็ขอบคุณมาก ๆ สำหรับผู้ร่วมงาน ทุกคนเทคแคร์ดีมาก ฉันเลยทำงานได้สบายมากขึ้น สำหรับเรื่องภาษาช่วงแรกฉันก็คิดว่าน่าจะเป็นอุปสรรค แต่พอเริ่มถ่ายไปก็รู้เลยค่ะว่าไม่ใช่ เพราะนักแสดงทุกคนแม้เราจะไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน แต่มันจะมีสิ่งหนึ่งที่เราเข้าใจซึ่งกันและกันค่ะ ในกองเราสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษแบบสั้น ๆ แม้ว่าในเรื่องฉันจะไม่ได้พูดภาษาไทย แต่เวลาอยู่ในกองถ่ายเพื่อนร่วมงานก็สอนวิธีพูดและเขียนภาษาไทยให้ด้วย”
หลังจากได้ถ่ายทำภาพยนตร์ร่วมกับทีมงานไทย ได้เรียนรู้ความเป็นไทยอะไรเพิ่มอีกบ้าง?
“ได้เรียนรู้เรื่องภาษาไทย ความเชื่อและความศรัทธาของคนไทย และอีกอย่างคือไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ไหนก็แล้วแต่ ทุกคนก็ยิ้มให้ตลอดค่ะ”
ได้มาร่วมงานกับ “เจมส์ มาร์” ซึ่งเป็นอีกพระเอกฮอตของไทย รู้สึกยังไง?
“ก่อนที่จะเข้ากองถ่ายฉันก็รู้นะคะว่าเจมส์ฮอตที่ไทย แต่หลังจากที่ได้เข้าฉากด้วยกันแล้ว มันทำให้ฉันรู้เลยว่าทำไมเขาถึงได้ฮอตแบบนี้ เจมส์เป็นคนที่มารยาทดีมาก เอาใจใส่งาน แม้เขาจะอายุน้อยแต่เขาก็เรียนรู้หลายอย่างค่ะ (ยิ้ม)”
ในกองถ่าย “เจมส์ มาร์” มีส่วนช่วยมากน้อยแค่ไหน?
“บรรยากาศการถ่ายทำที่นี่มันเปลี่ยนไปคนละแบบกับที่เกาหลีเลย เจมส์จะคอยเข้ามาถามว่าเป็นยังไงบ้าง และอธิบายเรื่องต่าง ๆ ให้ฟัง เหมือนห่วงความรู้สึก แต่เจมส์ไม่ค่อยได้สอนภาษาไทยนะคะ ส่วนมากเราคุยเป็นภาษาอังกฤษมากกว่า แต่จะเป็นคุณจอย-จุฑามาศ ที่ชอบสอน เช่น คำว่า “ได้หมดถ้าสดชื่น (พูดไทย)” และคุณเฟิร์น-พัสกร ก็สอนเขียนคำว่า “อึนจอง” และ “สวัสดีค่ะ” เป็นภาษาไทยค่ะ”
ตั้งแต่เดบิวต์มาจนถึงตอนนี้ “อึนจอง” คิดว่าตัวเองได้เรียนรู้อะไรจากการทำงานในวงการบันเทิงมากที่สุด?
“ฉันได้เรียนรู้เรื่องความจริงใจค่ะ มันเป็นสัจจะที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงแน่นอน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องสำคัญเฉพาะในวงการบันเทิงนะคะ ที่อื่นก็ต้องเป็นแบบนี้เช่นกัน คือเราต้องจริงใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะวงการนี้เต็มไปด้วยความคิดที่แตกต่างเยอะมาก บางคนคิดว่าการทำแบบนี้ใช่ แต่บางคนก็มองว่าไม่ใช่ คนเรามองได้หลายมุมจริง ๆ ค่ะ ดังนั้นเราต้องจริงใจกับเขา มันเป็นสัจจะที่สุด แม้ว่าเราจะทำในสิ่งที่ถูกต้องแต่บางทีก็อาจถูกมองว่ายังไม่ใช่ เป็นเรื่องผิด แต่ด้วยความจริงใจของเรา เราต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง ไม่ว่าคนอื่นจะพูดยังไงก็ตาม ถ้ามันไม่ใช่สิ่งที่ผิดและเราจริงใจกับมัน เราต้องทำสิ่งที่ถูกต้องนี้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ”
นอกจากงานแสดง ร้องเพลง วาไรตี้ อึนจองยังอยากทำอะไรให้ประสบความสำเร็จอีกบ้าง?
“ก่อนอื่นคือเรื่อง “มายด์ เมมโมรี่ฯ” ค่ะ (หัวเราะ) ฉันคิดว่าชีวิตที่ประสบความสำเร็จคือชีวิตที่ฉันสามารถร้องเพลง ได้เต้น ได้แสดงแบบนี้ และการได้อยู่กับแฟน ๆ ไปเรื่อย ๆ สิ่งเหล่านี้ฉันก็เรียกว่าประสบความสำเร็จแล้วค่ะ”
ช่วงเวลาที่ “อึนจอง” มีความสุขที่สุดคือตอนไหน?
“ช่วงที่ได้มาถ่าย “มายด์ เมมโมรี่ฯ” ค่ะ (หัวเราะ) รวมถึงตอนที่แฟน ๆ ส่งเสียงเชียร์ให้พวกเรา ที-อารา ตอนเราอยู่บนเวทีเสียงเชียร์แฟน ๆ สำคัญกับพวกเรานะคะ มันเป็นสิ่งที่ให้กำลังใจเราอยู่เสมอค่ะ”
แล้วเวลาที่ “อึนจอง” เศร้าหรือผิดหวัง อะไรเป็นเหมือนแรงใจที่ทำให้มีแรงสู้ต่อ?
“สำหรับฉันเวลาที่เศร้าหรือผิดหวังก็จะนั่งนิ่ง ๆ เพื่อทบทวนดูว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ แล้วถ้าฉันค้นหาคำตอบได้เมื่อไหร่ ฉันก็จะสบายใจ และมันก็ยังเป็นสิ่งจูงใจให้ฉันต่อไปได้เรื่อย ๆ ด้วย แต่ถ้าเรื่องของกิจกรรมคลายความเศร้า ฉันชอบเล่นกับน้องหมา ดูหนัง อ่านหนังสือ ออกกำลัง ทำให้ตัวเองมีความสุขค่ะ”
ถามถึงสเปกของผู้ชายที่จะพิชิตใจเราได้หน่อย?
“ฉันชอบคนที่ยิ้มแล้วน่ารัก มีมารยาทและเคารพผู้ใหญ่ มีความคิดแบบเท่ ๆ ถ้าเป็นคนมีเสน่ห์ด้วยก็ดีนะ เพราะฉันคิดว่ารูปร่างหน้าตาคนเรามันเปลี่ยนกันได้ค่ะ (หัวเราะ)”
เห็นว่าเคยมาเมืองไทยก่อนหน้านี้แล้ว ถามถึงความประทับใจ เวลาพูดถึงเมืองไทยหน่อย?
“น่าจะเป็นช่วงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9เสด็จสวรรคตค่ะ ฉันได้เห็นการรวมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อแสดงความอาลัยพระองค์ ทำให้ฉันได้คิดอะไรหลายอย่าง ได้เห็นความเศร้าโศกชาวไทยที่เหมือนกับเสียคุณพ่อของตัวเองไป มันทำให้ฉันอยากเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้นค่ะ”
ก่อนหน้านี้คุณได้สร้างความประทับใจให้คนไทย ด้วยการเดินทางมาแสดงความอาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 และร่วมแจกของให้ประชาชนที่มาถวายสักการะพระองค์ด้วย ทำไมถึงได้ตัดสินใจมาในครั้งนั้น?
“ถ้าคนไทยประทับใจฉันก็ดีใจนะคะ (ยิ้ม) นั่นแปลว่าเราสามารถสื่อสารกันได้แม้จะพูดคนละภาษากัน ตอนนั้นที่ฉันตัดสินใจมา เพราะได้ข่าวการสวรรคตของพระองค์ ฉันอยากแบ่งเบาความรู้สึกเศร้าของชาวไทย เลยคุยกับทีมงานที่ประเทศไทยว่าฉันสามารถทำอะไรได้บ้าง เพื่อปลอบใจคนไทย และก็มีคนแสดงความคิดเห็นชวนเราไปแสดงความอาลัยในหลวง และร่วมแจกของให้ประชาชนที่มาถวายสักการะพระองค์ด้วยกัน ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปที่ท้องสนามหลวง และได้เจอกับผู้คนมากมายที่ไปที่นั่น ซึ่งฉันรู้สึกว่ามันไม่เหมือนกับการที่ฉันได้เจอคนไทยในครั้งแรกเลย ฉันกลับรู้สึกว่าเมื่อเรามีหัวใจที่ตรงกัน มันก็สามารถสื่อสารความรู้สึกถึงกันได้มากขึ้นค่ะ”
ในมุมของ “อึนจอง” ที่เป็นคนเกาหลี รู้จักในหลวงรัชกาลที่ 9 ในเรื่องใดบ้าง?
“ตอนที่พระองค์เสด็จสวรรคต ในเว็บไซต์ที่เกาหลีข่าวพระองค์ก็ขึ้นอันดับ 1 ตลอด ที่เกาหลีเราก็ล้วนรู้สึกเศร้าใจเหมือนกัน แต่ส่วนตัวฉันมาประเทศไทยบ่อย ก็เลยได้เห็นว่าคนไทยนั้นรักในหลวงรัชกาลที่ 9 มาก ไปทุกที่ก็จะมีรูปพ่อหลวงทุกที่เลย นั่นทำให้ฉันรู้สึกเสียใจมากกว่าคนอื่น ๆ ที่เกาหลี เพราะฉันได้เห็นว่าคนไทยนั้นรักพระองค์มากแค่ไหน ดังนั้นแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ฉันก็รู้สึกรักในหลวงเช่นกัน รวมทั้งจากการที่มีคนเล่าประวัติของพระองค์ให้ฟังว่าท่านทรงรักประเทศไทยมากแค่ไหน รักชาวไทยมากแค่ไหน สิ่งเหล่านี้ฉันสามารถสัมผัสได้ค่ะ”
ประทับใจพระองค์ในเรื่องใดมากที่สุด?
“ฉันได้ข่าวว่ายามที่พระองค์ทรงป่วยหนัก ก็ยังไม่ยอมหยุด และพยายามทรงงานเพื่อประเทศไทยและประชาชนชาวไทย นั่นทำให้ฉันรู้สึกตะลึงว่าพระองค์นั้นทรงรักประชาชนมากกว่าตัวเอง สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้สึกว่าหากพระองค์ไม่รักคนไทยจริง ๆ คงทำไม่ได้ นั่นทำให้ฉันตกใจจริง ๆ นะคะ และยังทำให้ฉันได้เรียนรู้จากพระองค์ได้มากมายเลย แม้ว่าฉันจะไม่ได้รู้จักในหลวงรัชกาลที่ 9 ไปมากกว่าคนไทย แต่ครั้งนึงฉันเคยได้โพสต์รูปพระองค์ลงในโซเชียลส่วนตัว ซึ่งรูปนั้นทำให้ฉันเห็นว่า ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จฯ เยือนที่ไหน และไม่ว่าจะเป็นใคร ยากดีมีจนแค่ไหนก็แล้วแต่ พระองค์ก็จะทรงพยายามเข้าไปหา พยายามไปใกล้ ๆ นั่นเป็นสิ่งที่ฉันประทับใจและได้เรียนรู้มากเลยค่ะ”
ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนในไทย ที่อยากไปเที่ยวบ้าง?
“ที่จริงอยากไปทุกที่เลยค่ะ (ยิ้ม) ที่นี่ทะเลสวยมาก ทุกครั้งที่ไปทะเลก็จะเป็นการทำงาน ดังนั้นถ้ามีโอกาสได้เที่ยวที่นี่จริง ๆ ก็คงอยากไปที่ทะเลมาก ซึ่งฉันเคยไปเที่ยวที่ภูเก็ตมาแล้ว ตอนนั้นฉันไปถ่ายหนังที่นั่น และมันเป็นครั้งแรกที่ฉันถ่ายทะเลโดยไม่ต้องใช้แอพพลิเคชั่น มันสวยมาก ไม่ต้องผ่านแอพก็ได้ เหมือนสวรรค์เลย ฉันเลยรู้ว่าทำไมเขาถึงมาฮันนีมูนที่นี่กัน (ยิ้ม)”
อาหารไทยจานโปรดคืออะไร?
“ข้าวเหนียวมะม่วงและต้มยำกุ้ง มันอธิบายไม่ถูกเลยว่าทำไมถึงชอบ แต่เวลาที่เรากินข้าวของไทยกับต้มยำกุ้งรวมกัน มันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก ๆ ก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงเหมือนกันนะคะ (ยิ้ม) แต่มันอร่อยมาก”
ถ้ามี 1 วันได้ทำกิจกรรมกับแฟนคลับชาวไทยที่เมืองไทย อยากทำอะไร?
“มันคงสนุกมากนะคะ เข้าค่ายแคมปิ้ง เล่นกีฬากัน ทำอะไรดีล่ะ (ยิ้ม)”
งั้นก็พาแฟนชาวไทยไป จ.ภูเก็ต สิ?
“จริง ๆ ไม่อยากให้แฟน ๆ จ่ายตังค์เยอะ (ทำเสียงเศร้า)”
ถ้ามีสปอนเซอร์แล้วให้ “อึนจอง” วางแผนเต็มที่เลยล่ะ?
“ก็คงสนุกมากเลย (ยิ้ม) ไปเล่นบานานาโบ๊ตที่ภูเก็ตก็ดีนะ แต่ฉันอยากเล่นกีฬาสีสไตล์เกาหลีกับแฟน ๆ เล่นชักเย่อและวิ่งกัน และก็มีข้าวเหนียวมะม่วงเป็นของรางวัลค่ะ”
ท้ายที่สุดอยากให้ “อึนจอง” ฝากถึงแฟนชาวไทย ที่คอยมอบกำลังใจให้เราอยู่เสมอหน่อย?
“ไม่ว่าฉันจะไปต่างประเทศหรืออยู่ที่เกาหลี หรือที่ไหนก็ตาม แต่ฉันคิดเสมอว่าแฟนคลับนั้นเป็นครอบครัวเดียวกันค่ะ ถ้ามีโอกาสได้บอกรักแฟน ๆ ก็พยายามที่จะบอกให้ทุกคนได้รู้ อยากขอบคุณที่เชียร์กันมาตลอด และส่งความรักมาให้เสมอ ขอบคุณที่เคยให้ความรัก และขอบคุณแม้จะเพิ่งให้ก็ตาม ซึ่งไม่ว่าฉันจะเป็นอึนจองที่เป็นนักแสดง อึนจองที่เป็นนักร้อง หรืออะไรก็แล้วแต่ ฉันจะไม่ให้แฟนคลับต้องผิดหวัง ฉันจะเป็นอึนจองที่เมื่อแฟนคลับบอกกับคนอื่นว่าเป็นแฟนคลับของฉัน แล้วเขามีความภูมิใจที่ได้เป็นแฟนคลับฉัน ส่วนเรื่องโอกาสที่เพื่อน ๆ ที-อาราจะมาไทย จริง ๆ เพื่อน ๆ ก็รอโอกาสดี ๆ อยู่ เพราะคอนเสิร์ตครั้งแรกของ ที-อารา ก็คือที่กรุงเทพฯ และตอนนั้นฉันมีความทรงจำที่ดีกับแฟนชาวไทยมาก ๆ เพราะทุกคนส่งเสียงเชียร์ดังมาก และนั่นเป็นกำลังใจของฉัน ถ้ามีโอกาสดี ๆ ก็อยากมาอีกครั้งและสมาชิกทุกคนในวงก็ชอบแตงโมปั่นด้วยค่ะ (ยิ้ม)”
ได้เห็นมุมมองที่เธอมีต่อประเทศไทย รวมถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อพ่อหลวงแบบนี้ เชื่อว่าคงทำให้หลายคนหลงรักสาวคนนี้มากขึ้นทีเดียว.