“ปปส.” สั่งยึดทรัพย์ “บอย” ผู้ต้องหาเครือข่ายไซซะนะ 12 รายการ ลัมโบร์กินีของ “เบนซ์ เรซซิ่ง” โดนด้วย พร้อมเตรียมเรียกแจงทรัพย์สิน
นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า วันนี้ได้ลงนามคำสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินและให้ยึดทรัพย์สินชั่วคราวของนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย ผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดนายไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดชาวลาว
โดยทรัพย์สินในคำสั่งดังกล่าว ประกอบด้วยรถยนต์ลัมโบร์กินี ทะเบียน จห 5 ซึ่งเป็นคันเดียวกับที่เบนซ์ใช้ขับแต่ถูกสวมทะเบียน, รถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 2กฬ 4624, รถจักรยานยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ทะเบียน 4กร 249, รถจักรยานยนต์เคทีเอ็ม ทะเบียน 4กษ 6071 และอื่นๆ รวม 12 รายการ ทั้งนี้คำสั่งดังกล่าว สืบเนื่องจาก บช.ปส., ป.ป.ง. และ ป.ป.ส. ร่วมกันประชุมเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ก่อนที่ประชุมจะมีมติให้ยึดอาทรัพย์สินดังกล่าวไว้ก่อน และได้ส่งเรื่องมายัง ป.ป.ส. เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อให้เลขาธิการ ป.ป.ส. มีคำสั่งให้ตรวจสอบทรัพย์สินและยึดทรัพย์สินชั่วคราวไว้ก่อน ตามพ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2534
นายศิรินทร์ยา กล่าวต่อว่า กระบวนการดังกล่าวเป็นไปตามขั้นตอนปกติที่ผ่านมา หากทางเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และหน่วยงานอื่นที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาเกี่ยวกับยาเสพติดได้ และหากต้องการดำเนินการกับทรัพย์สินของผู้กระทำผิดก็จะส่งเรื่องมาให้ ป.ป.ส. เพื่อดำเนินการกับทรัพย์สิน ทั้งนี้ตามขั้นตอนหลังจากลงนามคำสั่งแล้ว ก็ได้ตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ทำสำนวนเกี่ยวกับทรัพย์สินขึ้นมา ซึ่งกรณีนี้ตนได้ตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ทำสำนวนขึ้นมา 4 คน แบ่งเป็นของ บช.ปส. 2 คน และ ป.ป.ส. 2 คน รวม 4 คน ขึ้นมาตรวจสอบทรัพย์สินของนายณัฐพล โดยจะต้องทำหนังสือเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินดังกล่าวมาชี้แจงถึงที่มาที่ไปของทรัพย์สิน ซึ่งปกติจะใช้ระยะเวลา 30 วัน ทั้งนี้ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่าเนื่องจากคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน จึงเร่งดำเนินการก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ป.ป.ส. จะต้องเรียกนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่ง สามีของแพท ณปภา ตันตระกูล นางเอกสาวชื่อดัง มาให้ข้อมูลอีกหรือไม่ นายศิรินทร์ยา กล่าวว่า เราจะต้องเรียกนายอัครกิตติ์ มาชี้แจงกับ ป.ป.ส. ซึ่งจะได้เร่งทำหนังสือเรียกตัวไปเร็วๆ นี้ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุวันได้ว่าจะเป็นวันใด ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ประชุมก่อน เมื่อมีหนังสือไปถึงนายอัครกิตติ์แล้ว จะต้องเดินทางมาชี้แจงข้อมูลด้วยตัวเองหรือทำหนังสือชี้แจงมาก็ได้ ส่วนนายณัฐพลนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องเดินทางไปสอบปากคำภายในเรือนจำ