ที่ห้องประชุมสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเพชรบูรณ์ ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ นายดิเรก ยศคชรัตน์ ผอ.สวท.เพชรบูรณ์ และนายวิริทธิ์พล หิรัญรัตน์ นายกสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความ ร่วมมือรับสัญญาณรายการวิทยุกระจายเสียงเพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมี นายคันฉัตร เพียรวิจัยธรณี ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ร้อยตำรวจตรีสุขสัณห์ ภิชัย. นายกสมาคมเครือข่ายนักสื่อสารชุมชน นายสุนทร คงวราคม ผู้สื่อข่าวมติชน และเว็บไซต์ 77 ข่าวเด็ด พร้อมด้วย ผู้อำนวยการสถานีวิทยุชุมชน ในสังกัด สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์จังหวัดเพชรบูรณ์ จำนวน 14 สถานีและ สถานีวิทยุชุมชน ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ไม่ได้สังกัดสมาคม 2 สถานี บุคคลากรเจ้าหน้าที่ สวท.เพชรบูรณ์ร่วมในพิธี
ด้วยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดเพชรบูรณ์มีพื้นที่กว้างขวางและระยะทางที่ห่างไกลกัน ทำให้การสื่อสารด้านข้อมูลข่าวสารกับประชาชนไม่ทั่วถึงเท่าที่ควร
เป็นจุดอ่อนที่ทำให้งานประชาสัมพันธ์ของภาครัฐไม่ประสบความสำเร็จ แม้จะมีสื่อออนไลน์ในยุคปัจจุบัน แต่ยังมีกลุ่มชาวบ้านในระดับล่างที่ไม่สามารถเข้าถึงช่องทางดังกล่าวได้ทั้งหมด กลายเป็นข้อจำกัดในการประชาสัมพันธ์และผลการสำรวจของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยพบว่าสื่อวิทยุกระจายเสียงยังเป็นช่องทางที่ประชาชนในต่างอำเภอเข้าถึงได้ง่าย แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ห่างไกลกันการส่งกระจายเสียงของ สวท.เพชรบูรณ์จึงไม่สามารถครอบคลุมได้ทั้งหมดและในพื้นที่ทั้ง 11 อำเภอมีวิทยุชุมชนตั้งอยู่อย่างน้อย 1 สถานี
ดังนั้น สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงได้ร่วมกับสมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์จังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งมีหน้าที่เชื่อมประสานและขับเคลื่อนวิทยุชุมชนในจังหวัดเพชรบูรณ์ได้มีแนวทางการพัฒนาศักยภาพด้านการสื่อสาร และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ไปสู่ประชาชนทุกพื้นที่ของจังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อให้ประชาชนสามารถนำข้อมูลข่าวสารไปปรับใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง จึงเกิดการทำงานร่วมกันในการผลิตรายการเพชรบูรณ์บ้านเราและผู้ว่าพบประชาชน เพื่อกระจายข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานราชการไปสู่ประชาชนอย่างทั่วถึงและครอบคลุมพื้นที่ทั้งจังหวัด โดย สวท.เพชรบูรณ์เป็นแม่ข่ายถ่ายทอดสัญญาณรายการให้สถานีวิทยุชุมชนในสังกัด สมาคมนักวิทยุและโทรทัศน์จังหวัดเพชรบูรณ์และสถานีวิทยุชุมชนนอกสังกัดเป็นผู้รับสัญญาณถ่ายทอดรายการดังกล่าวในช่วงเวลา 0600-0700 วันจันทร์-วันศุกร์ เบื้องต้นมีสถานีที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 16 สถานี เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2566 เป็นต้นไป โดยในโอกาสต่อไปจะได้ปรับรูปแบบรายการให้เกิดการสื่อสารสองทางและการเชื่อมประสานกับเครือข่ายอื่น เช่น สื่อมวลชนแขนงอื่นๆ หอกระจายข่าวด้วย
ทั้งนี้ในการร่วมลงนามประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบูรณ์ ตัวแทนวิทยุชุมชนและสื่อมวลชนได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในการทำงานที่จะก้าวต่อไปคือการทำหน้าที่ของสื่อในภาวะวิกฤติต่างๆตามสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งโรคระบาด ภัยพิบัติ เอลนิโญ หรือมรดกโลกที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะได้ใช้ช่องทางดังกล่าวในการสร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันและคลี่คลายสถานการณ์โดยเฉพาะในส่วนของวิทยุชุมชนต่างเชื่อมั่นว่าความเป็นวิทยุชุมชนยังเป็นสื่อที่มีความสำคัญและจำเป็นที่จะดำรงคงอยู่ในพื้นที่เพื่อเป็นช่องทางการเข้าถึงข่าวสารของชุมชนในชนบทตลอดไปแม้ว่าภายหลังปี 2567 อาจจะต้องสิ้นสภาพไปตามระเบียบของ กสทช.ที่อาจจะมองไม่เห็นในมิติความสำคัญดังกล่าว
มนสิชา คล้ายแก้ว